มีใครรู้ได้ว่าจะตายเมื่อไหร่ เป็นผู้ไม่ประมาท ฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง และขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน
เรื่องตาย ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเป็นจิตขณะเดียวที่เกิดขึ้น เราจะต้องตาย ตาย-เหมือนกับคนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ ซึ่งเป็นความจริงไม่มีใครหลีกพ้นได้ แต่สิ่งที่น่าคิดพิจารณาอยู่เสมอ นั้นก็คือ ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่นี้ จะดำเนินไปอย่างไร เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าจะตายเมื่อไหร่ ดังนั้น ชาตินี้ ยังมีกิเลสมาก เต็มไปด้วยอกุศลประการต่างๆ ทั้งโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น อีกทั้งปัญญาก็ยังไม่เจริญ ก็จะต้องเป็นผู้ไม่ประมาท หมั่นศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง และขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวัน
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ
ตอนมาไม่มีใครเชื้อเชิญให้มา ตอนจะไปก็ไม่มีใครอนุญาตก็ไป เปรียบเหมือนคนที่เกิด มาไม่ได้เชิญให้มาก็มา ส่วนคนตายไม่ได้อนุญาตให้ไปก็ไป คนที่เกิดมา เปรียบเหมือน ฝนตกคนก็เข้ามาหลบฝนในเรือน คนตาย ก็เปรียบเหมือนฝนหยุดแล้วทุกคนก็จากเรือน นั้นไป งูที่ลอกคราบแล้วย่อมไปสู่กายใหม่ฉันใด คนที่ตายแล้วย่อมไปสู่ที่อื่นฉันนั้น
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ