พระธรรมที่ทรงแสดงทุกคำ เป็นเรื่องของปัญญาทั้งหมด เป็นเรื่องของการที่จะให้มีความเห็นถูก มีความเข้าใจถูก จึงต้องเข้าใจทีละคำ สมถภาวนาเข้าใจแล้วใช่ไหม
การที่จะค่อยๆ ขจัดอกุศลเพราะเห็นโทษ ต้องตามลำดับขั้น ถ้าไม่มีปัญญาเจริญสมถภาวนาไม่ได้ เจริญสติปัฎฐานหรือวิปัสสนาภาวนาไม่ได้ เพราะว่าภาวนาทุกประเภทต้องมีปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาอบรมไม่ได้เลย กุศลเกิดได้ตามการสะสม แต่ละคนก็มีอัธยาศัยแต่ละอย่าง แต่ที่จะให้มากขึ้นจนกระทั่งถึงขั้นภาวนาที่สงบขึ้น จนกระทั่งไม่มีการเห็น ไม่มีการได้ยิน ไม่มีการได้กลิ่น ไม่มีการลิ้มรส ไม่มีการรู้โผฏฐัพพะ ผู้นั้นต้องมีปัญญารู้ว่าอกุศลเกิดเมื่อใด เกิดได้อย่างไร เพราะเห็นใช่ไหม จึงเป็นอกุศล ติดข้องในสิ่งที่เห็น เพราะได้ยิน เพราะได้กลิ่น เพราะลิ้มรส เพราะรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส
เป็นเรื่องของปัญญาที่ต้องเห็นโทษจริงๆ จึงอบรมความสงบด้วยปัญญา จนกระทั่งขณะที่เป็นอัปปนาสมาธิเป็นกุศลที่มั่นคงขึ้น ขณะนั้นไม่มีการรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้นกาย มีแต่การรู้อารมณ์ทางใจเท่านั้น จะใช้คำว่า ภาวนา ก็ต้องรู้จักว่าภาวนาสุดเอื้อมหรือเปล่า ไม่มีปัญญาแม้สักนิดก็ไปนั่งทำอะไร ก็ไม่รู้หรือเปล่า แล้วก็เรียกว่า สมถภาวนา หรือว่าเรียกว่า วิปัสสนาภาวนา
ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...
พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 927