ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ “เนกฺขมฺมปารมี ”
โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย
เนกฺขมฺมปารมี อ่านตามภาษาบาลีว่า เนก - ขำ - มะ - ปา - ระ - มี มาจากคำว่า เนกฺขมฺม (การออกไปจากกิเลส, การก้าวออกไปจากกิเลส) กับคำว่า ปารมี (ธรรมที่ทำให้ถึงฝั่งแห่งการดับกิเลส, บารมี) รวมกันเป็น เนกฺขมฺมปารมี เขียนเป็นไทยได้ว่า เนกขัมมบารมี แปลว่า ธรรมที่ทำให้ถึงฝั่งแห่งการดับกิเลส คือ การออกจากกิเลส แปลทับศัพท์เป็น เนกขัมมบารมี แสดงถึงความเป็นจริงของสภาพธรรมฝ่ายดีที่เกิดขึ้นเป็นไปซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ทวนกระแสของกิเลสทั้งหลายทั้งปวง
ข้อความในปรมัตถทีปนี อรรถกถา ขุททกนิกาย จริยาปิฎก ได้แสดงถึงความเป็นจริงของเนกขัมมบารมี ดังนี้
เนกขัมมบารมี ด้วยอำนาจแห่งกุศลธรรม เพราะออกจากธรรมอันเป็นปฏิปักษ์ต่อทานและศีลเป็นต้น
เราสละราชสมบัติอันใหญ่หลวงที่อยู่ในเงื้อมมือ ดุจถ่มก้อนน้ำลาย เมื่อเราสละก็ไม่เกี่ยวข้อง นี้เป็นเนกขัมมบารมีของเรา”
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ตลอด ๔๕ พรรษา เป็นคำอนุเคราะห์เกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษาอย่างแท้จริง เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรม เพื่อขัดเกลากิเลส เพราะเหตุว่าการขัดเกลากิเลสซึ่งเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิตใจนั้น ไม่เหมือนกับการทำความสะอาดวัตถุสิ่งของ เพราะเหตุว่าการขัดเกลากิเลสที่แต่ละบุคคลได้สะสมมาอย่างมากและยาวนานในสังสารวัฏฏ์ ต้องอาศัยการเจริญกุศลประการต่างๆ บ่อยๆ เนืองๆ ทั้งในเรื่องของการให้ทานเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น การรักษาศีล เว้นในสิ่งที่เป็นโทษแล้วกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ขวนขวายประพฤติในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ตลอดจนถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นความดีที่ประเสริฐยิ่ง เพราะเหตุว่า ในบรรดาธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นไปนั้น ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นสภาพธรรมที่ประเสริฐที่สุด
เนกขัมมบารมี เป็นธรรมที่ทวนกระแสของกิเลสทั้งหลายมีโลภะเป็นต้น ธรรมที่ทวนกระแสของกิเลส ย่อมเป็นธรรมที่เป็นกุศล เป็นธรรมที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กิเลสอกุศลธรรมทั้งหลายย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นไปพร้อมกับปัญญาที่เห็นโทษเห็นภัยของกิเลสอกุศลทั้งหลาย และเห็นโทษเห็นภัยของการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์อันเป็นที่ตั้งแห่งทุกข์โดยประการทั้งปวง จึงมีการอบรมเจริญกุศลและอบรมเจริญปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูกเพื่อถึงฝั่งแห่งการพ้นทุกข์คือการดับกิเลส นั่นเป็นเนกขัมมบารมี สำหรับเนกขัมมบารมี มีหลายระดับตามระดับของกุศล เช่น ทาน ศีล การบวชด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องเห็นโทษของกิเลสมุ่งขัดเกลากิเลส และการอบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นต้น
การบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในชีวิตประจำวัน ยังเป็นการแสดงถึงการออกจาก กาม ๒ อย่าง กล่าวคือ กิเลสกาม ซึ่งเป็นความติดข้องยินดีพอใจ ๑ และ วัตถุกาม สภาพที่เป็นที่ตั้งแห่งความติดข้องยินดีพอใจ มี รูป เสียง กลิ่น รส และสิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย เป็นต้น ๑ สำหรับ การออกจากกามทั้ง ๒ อย่างนั้น ก็ด้วยการบรรพชาหรือการบวช ๑ และ ด้วยข้อประพฤติปฏิบัติ ๑ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการที่บุคคลที่มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวช สละเพศคฤหัสถ์ สละทรัพย์สินเงินทอง วงศาคณาญาติเป็นต้น ถือเพศเป็นเพศบรรพชิต เว้นจากกิจของคฤหัสถ์ ไม่มีการรับเงินและทอง ไม่ยินดีในเงินและทอง เป็นต้น มุ่งตรงต่อการศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองเป็นสำคัญ นั่นเป็นการออกจากกามด้วยการบวช ส่วนการอบรมเจริญกุศล อบรมเจริญปัญญา ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เป็นการออกจากกามด้วยข้อปฏิบัติ สำหรับบุคคลผู้ที่เป็นคฤหัสถ์แล้ว ขณะใดที่เป็นการอบรมเจริญกุศลประการต่างๆ กล่าวคือ การให้ทาน ขัดเกลากิเลสของตนเอง การรักษาศีล เว้นจากสิ่งที่ผิดแล้วประพฤติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม การฟังพระธรรม การสนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริง เป็นต้น ก็เป็นการบำเพ็ญเนกขัมมบารมีในเพศของคฤหัสถ์ ซึ่งเป็นการก้าวออกจากอกุศล ค่อยๆ ขัดเกลาความติดข้องยินดีพอใจและกิเลสทั้งหลายในชีวิตประจำวัน
สิ่งที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดีในชีวิตประจำวัน ย่อมไม่พ้นไปจากความเข้าใจพระธรรม ซึ่งเริ่มจากการค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกจากการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ในเมื่อปัญญายังไม่มีหรือยังมีน้อย ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรมเพื่อปัญญาจะได้ค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ เห็นประโยชน์ของคำจริงแต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เกื้อกูลให้จากเป็นผู้มากไปด้วยอกุศลมากไปด้วยความไม่รู้ ได้ค่อยๆ รู้ขึ้น ละคลายความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย
ขอเชิญติดตามอ่านคำอื่นๆ ได้ที่..
บาลี ๑ คำ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ