ผู้มีราตรีเดียวเจริญ
โดย webdh  5 เม.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 3332

[เล่มที่ 23] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 210

ว่าด้วยผู้มีราตรีเดียวเจริญ

บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง สิ่งใดล่วง ไปแล้ว สิ่งนั้นก็เป็นอันละไปแล้ว และ สิ่งที่ยังไม่มาถึงก็เป็นอันยังไม่ถึง ก็บุคคล ใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบันไม่ง่อนแง่น ไม่ คลอนแคลนในธรรมนั้นๆ ได้ บุคคลนั้น พึงเจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด พึงทำความเพียรเสียในวันนี้แหละ ใคร เล่าจะรู้ความตายในวันพรุ่ง เพราะว่าความ ผัดเพี้ยนกับมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่นั้น ย่อมไม่มีแก่เราทั้งหลาย พระมุนีผู้สงบย่อม เรียกบุคคลผู้มีปกติอยู่อย่างนี้ มีความ เพียรไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันและกลาง คืน นั้นแลว่า ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ



ความคิดเห็น 1    โดย devout  วันที่ 5 เม.ย. 2550

ผู้มีราตรีเดียวเจริญ คือ ผู้ไม่ประมาท

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย PUM  วันที่ 5 เม.ย. 2550

ขอบพระคุณครับ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 4    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 5 เม.ย. 2550
บุคคลไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ด้วยอำนาจกิเลส ที่เป็น ตัณหาและทิฏฐิ เป็นต้น

ไม่ควรมุ่งหวังสิ่งที่ยังไม่มาถึง ด้วยอำนาจกิเลส ที่เป็น ตัณหาและทิฏฐิ เป็นต้น

ก็บุคคล ใดเห็นแจ้งธรรมปัจจุบันไม่ง่อนแง่น คือเห็นแจ้ง ธรรมในปัจจุบัน ด้วยวิปัสสนา ซึ่งก็ต้องเริ่มจากการเจริญสติปัฏฐานก่อน ด้วยธรรมที่มีในขณะนี้เป็นปัจจุบัน วิปัสสนานั่นแหละ ชื่อว่า ไม่ง่อนแง่น รวมทั้งพระนิพพานด้วย

บุคคลนั้น พึงเจริญธรรมนั้นเนืองๆ ให้ปรุโปร่งเถิด คือ พึงเจริญสติปัฏฐาน วิปัสสนาเพื่อถึงพระนิพพาน


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 6 เม.ย. 2550

ผู้มีราตรีหนึ่งเจริญ คือ ผู้ที่เจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ อยู่กับปัจจุบันไม่คำนึงถึงอนาคตและอดีต


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 11 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ