สอบตก
โดย siwa  4 มี.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 15676

เตรียมตัวเตรียมใจกับการพลัดพรากจากกันมาเป็นปี ฟังธรรมสบายๆ ฟังเรื่อยๆ พอเข้าใจขั้นการฟังว่าทุกอย่างเป็นธรรม บังคับบัญชาไม่ได้ ความโศกเศร้าเสียใจก็เป็นธรรม การทำใจไม่ได้ก็ธรรม แต่พอพี่ชายจากไปจริงๆ เป็นเวลาสี่วันแล้ว เสร็จจากงานศพ กลับถึงบ้าน เห็นสิ่งของเครื่องนอนเครื่องใช้ กลับยิ่งรู้สึกทุกข์บีบคั้นใจ หวั่นไหว กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นอนไม่หลับ รู้เลยว่า สอบตก เพราะความเข้าใจและการฟังธรรมของเรายังน้อยไป



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 5 มี.ค. 2553

เพราะความเข้าใจและการฟังธรรมของเรายังน้อยไป ไม่ถึงระดับที่จะไม่มีโทมนัส

แม้พระอริยสาวกขั้นพระโสดาบัน คือ นางวิสาขามหาอุบาสิกา เวลาหลานตายก็ยัง

เสียใจ ร้องให้ หรือแม้ท่านพระอานนท์เถระ เวลาพระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพพาน

ท่านพระอานนท์ ท่านก็เสียใจ ร้องให้ แต่ท่านไม่มีความเห็นผิดแล้ว ดังนั้นระดับปุถุชนผู้ยังหนาด้วยกิเลส ยังดับสักกายทิฏฐิ โลภะ โทสะ ไม่ได้ เมื่อพลัดพรากจากของรักก็ต้องเสียใจ ร้องให้เป็นธรรมดาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 5 มี.ค. 2553

สอบตกเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคิดถึงพีชายที่จากไปแล้ว ก็ให้ทำกุศลแล้วอุทิศส่วนกุศล

ไปให้พี่ชายบ่อยๆ กุศลและปัญญาเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้และโลกหน้าค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 5 มี.ค. 2553
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ก็ยังไม่พ้นไปจากทุกข์อยู่ตราบนั้น ที่มีความทุกข์ใจ มีความโศกเศร้าเสียใจ เมื่อพลัดพรากจากบุคคลที่รักหรือสิ่งที่รัก นั้น ก็เพราะยังมีกิเลสอยู่นั่นเอง ซึ่งก็เป็นปกติธรรมดา จะห้ามไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เพราะธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ สังสารวัฏฏ์ยาวนานหาที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ชีวิตในแต่ละชาตินั้นสั้นมาก ทุกคนเกิดมาแล้ว ตายทุกคน ไม่มีใครรอดพ้นจากความตายไปได้ และเมื่อยังไม่ได้ดับกิเลสทั้งปวงอย่างเด็ดขาด ตายแล้วเกิดทันที มีจิต เจตสิก และรูป เกิดขึ้นเป็นไป สืบเนื่องต่อไป เป็นสังสารวัฏฏ์ที่ยืดยาวต่อไปอีก ขอเชิญคลิกอ่าน ... ความยาวนานของสังสารวัฏฏ์ [ภาตุสูตร] ... การโศกเศร้าเสียใจ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งทั้งสิ้น ควรอย่างยิ่งที่จะเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม พระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน การอบรมเจริญปัญญาเท่านั้นที่จะเป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส ดับกิเลส ดับความโศกเศร้าเสียใจ ดับทุกข์ทั้งปวงได้ในที่สุด ซึ่งก็จะต้องอาศัยกาลเวลาอันยาวนานทีเดียว ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ความคิดเห็น 4    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 6 มี.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย paderm  วันที่ 6 มี.ค. 2553

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ...เปรียบความตายเหมือนงูลอกคราบ [อุรคชาดก]


ความคิดเห็น 7    โดย Pinyapachaya  วันที่ 6 มี.ค. 2553
เหมือนการจับด้ามมีดค่ะ ตอนนี้ยังไม่รู้หรอกว่ากำลังสึก แต่อย่าหยุดจับนะคะ

ความคิดเห็น 8    โดย saifon.p  วันที่ 7 มี.ค. 2553

เมื่อพิจารณาสภาพธรรมตามความเป็นจริง....ความยินดี พอใจ มีมากมายเหลือเกิน ในภพ ในชาติ ในวัตถุ ในบุคคล ในสิ่งต่างๆ แต่เมื่อสิ่งต่างๆ เหล่านั้น บุคคลต่างๆ เหล่านั้นหาความเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคลไม่ได้เราติดในความรู้สึกเป็นสูขอันเกิดจากบุคคลภายนอกเป็นอารมณ์ต้องการสูขเวทนาให้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ไม่มีบุคคลนั้นที่จะเป็นปัจจัยให้สูขเวทนาอย่างนั้นเกิดอีก เมื่อต้องการแล้วไม่ได้ โทมนัสเวทนาก็เกิด ......แท้จริงเรารักและเยื่อใยต่อสูขเวทนาของเราต่างหาก.....
เป็นกำลังใจให้ท่านผ่านสภาพนี้ไปด้วยความสูขสวัสดีและเข้าใจตัวเองนะคะ


ความคิดเห็น 9    โดย ผิน  วันที่ 7 มี.ค. 2553
ขอบอกว่าไม่ได้สอบตกคะ แต่ที่คิดถึง เพราะคิดถึงความดีของพี่ชาย คิดถึงได้แต่อย่าทำให้ตนเองต้องตกอย่ในความเศร้าโศก เพราะมีเกิดก็ต้องมีดับ ซึ่งเกิดกับคนทุกคนไม่มีเว้น ขอให้เข้มแข็งนะคะ

ความคิดเห็น 10    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 8 มี.ค. 2553

สอบตกเป็นเรื่องธรรมดาเพราะอกุศลเกิดมากกว่ากุศล...ลองคลิกอ่าน...มีธรรมะข้อไหนบ้างที่ช่วยคลายความเศร้าโศกได้บ้าง เป็นการยากที่จะไม่มีความเศร้าโศกเสียใจ


ความคิดเห็น 11    โดย Sam  วันที่ 8 มี.ค. 2553

ความทุกข์ ความบีบคั้นจิตใจ เป็นสภาพธรรมที่ไม่น่ายินดีพอใจ ซึ่งเกิดขึ้น

เพราะยังไม่ได้ดับโทสะเหตุ และมีปัจจัยคือการพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

ความทุกข์ ความบีบคั้นจิตใจ ไม่อาจบรรเทาได้ด้วยความไม่พอใจ หรือการไม่

อยากที่จะมีความรู้สึกอย่างนั้น ยิ่งอยากหายทุกข์ใจ ก็ยิ่งทุกข์เพิ่มขึ้น เพราะบังคับไม่

ได้ เนื่องจากความเศร้านั้นเป็นอนัตตา เป็นไปตามเหตุ เป็นไปตามปัจจัย

ขณะที่เจริญกุศลขั้นทาน ขั้นศีล หรือมีการพิจารณาสังเกตความทุกข์ ความ

บีบคั้นจิตใจ โดยสภาพที่เป็นธรรมะ มีลักษณะเฉพาะของตนของตน ไม่อาจบังคับได้

ด้วยความเป็นตัวตน และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จะ

ทำให้ได้อาศัยความทุกข์นั้น เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ทั้งปวงได้อย่างถาวรครับ


ความคิดเห็น 12    โดย พุทธรักษา  วันที่ 10 มี.ค. 2553


^
^

" อาศัยความทุกข์นั้น เป็นเครื่องนำออกจากทุกข์"

ไพเราะมากค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ