คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เป็นข้อห้าม หรือข้อบังคับว่า ทุกคนต้องทำตาม ขึ้นอยู่กับผู้นั้นมีศรัทธา และปัญญา พิจารณา น้อมเอาพระธรรมมาประพฤติปฏิบัติเพื่อเป็นมงคลกับตนเองทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป ที่ได้พบพระธรรม ผู้มีปัญญาที่เป็นกัลยาณปุถุชน ย่อมมีความเข้าใจพระธรรม และมีความนอบน้อม ต่อพระรัตนตรัยมากกว่าพาลปุถุชน
ผู้ที่เป็นพระโสดาบัน ย่อมมีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยมากกว่าปุถุชน
ผู้ที่เป็นพระสกทาคามี ย่อมมีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยมากกว่าะพระโสดาบัน
ผู้ที่เป็นพระอนาคามี ย่อมมีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยมากกว่าพระสกทาคามี
ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ ย่อมมีความนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยมากกว่าพระอนาคามี
ขณะที่เรากล่าวคำสวดมนต์ นโม 3 จบ (ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น) ขณะนั้น กาย วาจา และใจ ก็นอบน้อมพระรัตนตรัยด้วย เป็นกุศลจิตขั้นศีล
เรื่องระดับความเลื่อมใสในพระพุทธคุณและพระรัตนตรัย
ขอเชิญคลิกอ่นได้ที่...ระดับความเลื่อมใสในพระพุทธคุณ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สาธุ
ขออนุโมทนาครับ