เหตุใดผมจึงศึกษาธรรมะ ๐๑__เพราะไม่รู้เวลาตาย
โดย สารธรรม  20 ก.พ. 2551
หัวข้อหมายเลข 7430

เหตุใดผมจึงศึกษาธรรมะ
แนะแนวทางเจริญวิปัสสนา
โดย โกวิท อมาตยกุล
แบ่งเป็น ๓๔ ตอน
๑. ไม่รู้เวลาตาย

เมื่อนึกถึงไพบูลย์ ทำให้คิดนำคำบรรยายของอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มาเขียนเตือนใจไว้ดังนี้ การตายพรากจากทุกสิ่งจากชาตินี้ไปหมดสิ้น ไม่มีอะไรเหลือเป็นบุคคลนี้อีกต่อไป แม้แต่ความทรงจำ ชาตินี้เกิดมาแล้ว จำได้ไหมว่าชาติก่อนเป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไร หมดความเป็นบุคคลในชาติก่อนสิ้นเชิง ฉันใด แม้ชาตินี้จะได้สร้างบุญ ทำกรรมใดมาแล้ว จะมีมานะในชาติ ตระกูล ยศศักดิ์ใดๆ ก็ตาม ก็จะต้องหมดสิ้น ไม่มีเยื่อใยในชาตินี้ ภพนี้เหลืออยู่อีกเลย ฉันนั้น การตายพรากจากทุกสิ่งโดยสิ้นเชิง ทั้งความคิด ความจำ ความยึดถือใดๆ ทั้งสิ้นที่เคยเกาะเกี่ยวผูกไว้ตั้งแต่เกิดจนเดี๋ยวนี้นั้น ก็จะผูกพันยึดถือว่าเป็นตัวเราอีกต่อไปไม่ได้

การพบกันครั้งสุดท้าย ก่อนตายจากไปนั้น ไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยที่จะแสดงให้รู้ว่า เมื่อเห็นกันแล้วจะไม่ได้เห็นกันอีก เมื่อเห็นตอนเช้าก็อาจไม่ได้เห็นตอนเย็น เห็นตอนเย็นก็อาจจะไม่ได้เห็นตอนเช้า ทุกคนเห็นความจริงว่า ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงหรือต่อรองความตายได้ จะขอเวลาต่อแม้เล็กน้อยก็ไม่ได้

ฉะนั้น การกล่าวถึงชีวิตของแต่ละคน ก็ไม่พ้นจากการพิจารณาสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นแต่ละบุคคล ซึ่งไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาเลย เมื่อพูดกันถึงผู้ตาย ก็ควรจะได้ระลึกถึงสภาพจิตในขณะนั้นว่าแยบคายหรือยัง แทนที่จะโศกเศร้า เสียใจ อาลัยอาวรณ์ ก็ควรจะเป็นความเบิกบานในพระธรรม ที่ได้เข้าใจความจริงอันเป็นสัจจธรรมซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงถึงธรรมดาของการเกิดซึ่งต้องมีการตายเมื่อเกิดแล้วที่จะไม่ตายนั้นไม่มี และการตายนั้นก็ไม่สามารถจะรู้ล่วงหน้าได้เลย เมื่อเข้าใจความจริง ก็รู้ว่าความจริงเป็นสัจจธรรม

ชีวิตเราเป็นกระแสจิตที่เกิดดับสืบต่อกันทีละดวงเรื่อยไป ตั้งแต่เกิดจนตายจากชาติหนึ่งไปสู่อีกชาติหนึ่ง กิเลสทุกชนิดเกิดขึ้นเพราะได้สะสมมาแล้วในอดีต เมื่อปัญญายังไม่เจริญถึงขั้นดับกิเลส กิเลสก็เกิดอีกๆ ต่อไปในอนาคต ศึกษาธรรมเพื่อละกิเลส

ผู้ทำอกุศล ก็ต้องรับผลของอกุศลอยู่แล้ว ไม่ก้าวก่ายในอกุศลของผู้อื่น กิเลสของตัวเองทำให้คิดหมุนวนอยู่ อย่าชอบไปเดาความคิดของผู้อื่น กิเลสของเราทำให้เราไม่มีความสุข จงคิดเป็นกุศล การฟังพระธรรมเสมอๆ ความเข้าใจพระธรรม ย่อมสะสมไปในภพหน้า หากข้อความที่เก็บมาบางตอน พอเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดกุศล ขออุทิศส่วนกุศลให้ไพบูลย์ ภคนันท์ มีจิตโสมนัสยินดี อนุโมทนาในส่วนกุศลนี้ด้วย เทอญ

ณพรัตน์ (คุณหญิงณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา)

คลิก อ่านตอนที่ ๐๑ - ๓๔ ...

เหตุใดผมจึงศึกษาธรรมะ โดย โกวิท อมาตยกุลคลิก ดาวน์โหลด หนังสือที่นี่

เหตุใดผมจึงศึกษาธรรรมะ



ความคิดเห็น 1    โดย คุณ  วันที่ 25 ก.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย pinphaphatson  วันที่ 16 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 3    โดย อภิรดี  วันที่ 30 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 4    โดย Preawpraw  วันที่ 17 พ.ค. 2553

เกิดมาก็ใช่ว่าจะมีอะไรมาด้วยสักอย่าง นอกจากจิตที่บริสุทธิ์ ใยไม่นำจิตที่บริสุทธิ์ กลับไป หรือสร้างบุญสร้างกุศลเพิ่ม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก ซึ่งมันเป็นได้ยากมาก แต่ก็ต้องทำ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ปรับเปลี่ยนซะ ลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่ดี ไม่เป็นกุศลทั้งหลาย เพราะตายไปแล้ว เปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว กฎหมายยังมีอุทธรณ์ กฎแห่งกรรมหมดสิทธิ์

ขออนุโมทนากับทุกความคิดเห็น


ความคิดเห็น 5    โดย jintana  วันที่ 27 มิ.ย. 2553

เราจึงควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ขจัดกิเลสให้เบาบางลง ด้วยการศึกษาธรรมะ และปฏิบัติให้ได้ ...

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย pamali  วันที่ 30 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย amikaa44  วันที่ 8 เม.ย. 2555

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


ความคิดเห็น 8    โดย papon  วันที่ 4 มี.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ