ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๐๐
โดย khampan.a  19 ก.พ. 2566
หัวข้อหมายเลข 45589

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจาก
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๐๐ (สัปดาห์ที่ ๖๐๐)

~ พระพุทธเจ้า พุทธะ คือ ปัญญา ความรู้ที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้เกิดปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง แต่การที่จะไปนั่ง ไปเดิน ไปยืน ไปนอน ทำขึ้นมา ไม่รู้อะไรเลย เพราะฉะนั้น ทั้งหมดนั้น ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะให้ไม่รู้ ไม่ใช่ให้เข้าใจถูกต้อง
~ พระธรรมแต่ละคำที่แต่ละคนได้ยินได้ฟังนี้ มาจากการบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานของผู้ที่จะได้ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละคำคือพระมหากรุณาคุณ ตั้งแต่ครั้งทรงบำเพ็ญพระบารมีเป็นพระโพธิสัตว์จนกระทั่งได้ทรงตรัสรู้ มีค่ามากสำหรับที่จะทำให้คนอื่นได้มีความเข้าใจจริงๆ
~ พระธรรมจะชี้ให้เห็นตามความเป็นจริงว่า อกุศลเป็นอกุศล แยบยลหลากหลายและละเอียดมากด้วย ยากที่จะรู้ได้ แต่ปัญญาสามารถรู้ทุกอย่างถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ขณะนั้นเบิกบานที่ได้รู้ความจริงและได้พ้นจากการไม่รู้ความจริง
~ เคยโกรธใครเกลียดใครไม่ชอบใคร เขาไม่ได้ตามไปโลกหน้า แต่ว่าความโกรธความเกลียดความไม่ชอบจะติดตามบุคคลนั้นไป ดีไหมล่ะมากด้วยอวิชชาความไม่รู้และอกุศลทั้งหลาย? เพราะฉะนั้น พระธรรมเท่านั้นที่จะทำให้สามารถเห็นถูกเข้าใจถูกแล้วก็เริ่มรู้โทษของอกุศลแล้วก็เห็นประโยชน์ของการที่จะทำดี ไม่ใช่เพื่อเรา แต่เพราะเหตุว่า เป็นธรรมฝ่ายดีซึ่งตรงกันข้ามกับธรรมฝ่ายไม่ดี แล้วก็ต้องศึกษาธรรมให้เข้าใจขึ้น
~ การฟังธรรมก็เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง ตามความเป็นจริง เพื่อสามารถละอกุศล จนกระทั่งดับหมดได้เมื่อเข้าใจว่าเป็นธรรมละเอียดขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง ก็ยังระลึกได้ในสภาพของธรรมที่กำลังปรากฏ นี่คือการฟังธรรมเพื่อให้เข้าใจธรรม
~ ไม่มีทรัพย์สินเงินทองใดๆ เลย ก็เป็นบุญได้ เพราะบุญต้องเป็นธรรมฝ่ายดี ธรรมฝ่ายดี จิตใจที่ดีงามเกิดเมื่อไหร่ แสดงความเคารพต่อผู้ที่ควรเคารพ เช่น เคารพต่อปูย่าตายาย ขณะนั้นไม่มีเงินเลย ก็เป็นบุญแล้ว เพราะฉะนั้น บุญคือธรรมแน่นอน คือ เป็นสิ่งที่มีจริง แล้วสิ่งนั้นเป็นธรรมฝ่ายดีด้วย ไม่มีความโกรธ ไม่มีความติดข้องขณะไหน ขณะนั้นก็เป็นบุญ
~ เสียเวลาจริงๆ เสียประโยชน์ของตนเองจริงๆ ในขณะที่โกรธคนอื่น ตนเองเท่านั้นที่เดือดร้อนเพราะความโกรธของตนเอง
~ ไม่ว่าจะพูดหรือทำ ล้วนเป็นไปในอำนาจของจิต ถ้าจิตใจดี มือเท้าก็เป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ มีการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้อื่น กระทำในสิ่งที่ดีงาม เป็นต้น แต่ถ้าเป็นอกุศลจิต คิดร้ายเบียดเบียนผู้อื่น มือเท้าก็ประทุษร้าย เบียดเบียนผู้อื่น
~ เป็นโอกาสที่หาได้ยากที่สุดที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ได้มีความเข้าใจ ที่สามารถที่จะเกื้อกูลคนอื่นด้วย ต้องไม่ลืมว่า การคิดถึงคนอื่น การเกื้อกูลคนอื่น การทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น นั่นคือการสละความเป็นเรา ทีละเล็กทีละน้อย
~ การขัดเกลากิเลสเป็นเรื่องที่ละเอียดมาก เพราะเหตุว่า จะต้องเข้าใจเรื่องของสภาพธรรมโดยละเอียด โดยถูกต้อง ถ้าใครศึกษาพระธรรมโดยไม่รอบคอบ หรือมีการเข้าใจผิดในพระธรรม การขัดเกลากิเลสก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้
~ เดี๋ยวนี้ ทั้งหมดเป็นธรรม แต่ไม่เคยรู้เลย จนกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ และกว่าจะเข้าใจได้ว่าไม่มีเรา แต่เป็นธรรมทั้งหมด ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรม ไตร่ตรองจนกระทั่งเข้าใจ ว่า ไม่ว่าจะเป็นคำอะไรทั้งหมดที่ได้ฟัง คือ เดี๋ยวนี้
~ กิเลสประการต่างๆ เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต เมื่อเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ก็เป็นเครื่องตัดหรือทำลายซึ่งกุศลธรรม ไม่สามารถทำให้กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไปในขณะนั้นได้เลย
~ กิเลสทั้งหลาย เป็นภัยที่ยิ่งใหญ่ โดยเหตุที่ว่าอยู่ภายในตัวเอง ไม่ได้อยู่ไกลเลย เป็นสิ่งไม่ดีที่มีอยู่ในจิตใจ เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมต่างๆ และก็จะเป็นผู้ได้รับผลของอกุศลกรรมนั้นๆ เอง
~ ปัญญา ไม่ใช่ว่าทุกคนมี แต่เป็นสิ่งซึ่งจะเกิดมีขึ้นได้ โดยอาศัยการฟัง การพิจารณา การไตร่ตรอง การสนทนา การเห็นประโยชน์ แล้วก็มีการฟังเพิ่มขึ้น เข้าใจเพิ่มขึ้น ปัญญาก็จะเจริญขึ้น
~ สิ่งที่เพียงปรากฏให้เห็นว่ามีแล้วก็หมดไป ไม่เหลืออีกเลย ควรติดข้องในสิ่งนั้นไหม? ต้องจากโลกนี้ไป ไม่มีอะไรติดตามไปสักอย่าง ร่างกายที่เข้าใจว่าเป็นของเราก็ติดตามไปไม่ได้ แล้วนี่หรือจะเป็นของเรา เพราะความจริงไม่มีเรา แต่มีสิ่งที่มีจริงๆ ซึ่งมีปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดขึ้นแล้วก็หมดไปๆ
~ คนอื่นทำร้ายเราไม่ได้ จะด่า จะว่า จะพูดอะไรก็ตามแต่ เป็นกิเลสของใคร? ไม่ใช่ของเราแน่ เราไม่ได้พูด เราไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะฉะนั้น จะหวั่นไหวไหมกับคำของคนอื่น?
~ อดทนไหม ถ้ามีใครว่า? ไม่โกรธ เห็นใจ เขาไม่รู้ การกล่าวร้ายคนอื่น ต้องมีจิตที่ประทุษร้ายคนที่ถูกกล่าวร้ายแน่นอน ยังทำได้ เห็นไหม? เพราะฉะนั้น อดทนที่จะไม่โกรธ ที่จะไม่ทำร้ายคนอื่น แม้ด้วยวาจา กว่าจะดับกิเลสหมด คิดดู
~ เริ่มเป็นผ้าเช็ดธุลี ก็สบายเลย ไม่เดือดร้อน ใครไม่ดี เพราะเขาไม่รู้ ใครใช้คำกิริยาอาการวาจาใดๆ ที่ไม่ดีงาม ก็เพราะเขาไม่รู้ ควรเห็นใจไหม? ควรมีความหวังดีไหม? ถ้าสามารถที่จะช่วยให้เขาได้เข้าใจขึ้น ทำสิ่งที่ดีขึ้น นั่นก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แต่ทำได้ไหม? เข้าใจต่างหาก ธรรมที่เข้าใจทำหน้าที่ของธรรมที่เข้าใจว่า อะไรถูก อะไรผิด
~ ผ้าเช็ดธุลี คือ เอาอะไรมาเช็ดสักเท่าไหร่ ผ้านั้นก็ไม่ได้เศร้าหมองตามไปด้วย เพราะธุลีเป็นธุลี แต่ผ้าที่เช็ดธุลีขณะนั้น ไม่ได้เศร้าหมองตามธุลี
~ ศึกษาธรรม ขณะนี้เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรม เพราะฉะนั้น ศึกษาให้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ให้ถูกต้อง
~ การศึกษาพระธรรม ไม่ใช่ให้ศึกษาชื่อ จำชื่อ แต่ชีวิตจริง แสดงว่า เริ่มเข้าใจชีวิตจริงๆ ตามที่ได้ฟังพระธรรมหรือยัง?
~ การศึกษาธรรมเพื่อรู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏในชีวิตประจำวันทั้งหมด ตามความเป็นจริง
~ กุศลจิตและอกุศลจิตที่เกิดดับแล้วสะสมอยู่ในจิตทุกขณะ ทำให้แต่ละคนต่างกันไปทุกขณะจิต
~ คนไม่ดี สะสมมาที่จะทำสิ่งที่ไม่ดี ไม่ใช่เขาเลย แต่ว่าเป็นธรรมที่เกิดจากการสะสมมามีกำลังจนทำให้ประพฤติทางกาย ทางวาจา ทางใจที่ไม่ดี
~ เมื่อเริ่มเข้าใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิต เป็นธรรมแต่ละหนึ่งซึ่งเกิดแล้วดับแล้วไม่กลับมาอีกเลย
~ เป็นโอกาสที่จะได้เป็นคนดี ด้วยการเข้าใจพระธรรม สะสมความเห็นถูก เพื่อที่จะขัดเกลาจิต คนฉลาด เห็นโทษของกิเลส ขัดเกลากิเลสเลย ไม่รอ เพราะถ้ารอ ก็เพิ่มกิเลสมากขึ้นไปอีก



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๙๙


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...



ความคิดเห็น 1    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 19 ก.พ. 2566

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย swanjariya  วันที่ 19 ก.พ. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


ความคิดเห็น 3    โดย มังกรทอง  วันที่ 19 ก.พ. 2566

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี

ทางสื่อไลน์ยินดี เด่นล้ำ

อาจารย์สุจินต์นำวิถี ทางถูก

ฟังแห่งความจริงค้ำ เลิศด้วยปัญญา


ความคิดเห็น 4    โดย jaturong  วันที่ 19 ก.พ. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย Lai  วันที่ 19 ก.พ. 2566

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย Jans  วันที่ 20 ก.พ. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย xaychlisaengthxng7  วันที่ 20 ก.พ. 2566

กราบขอบพระคุณค่ะท่านอาจารย์


ความคิดเห็น 8    โดย xaychlisaengthxng7  วันที่ 21 ก.พ. 2566

กราบอนุโมทนากุศลค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย mon-pat  วันที่ 23 ก.พ. 2566

เสียเวลาจริงๆ เสียประโยชน์ของตนเองจริงๆ ในขณะที่โกรธคนอื่น ตนเองเท่านั้นที่เดือดร้อนเพราะความโกรธของตนเอง

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

...กราบอนุโมทนาอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย ครับ


ความคิดเห็น 10    โดย chatchai.k  วันที่ 11 มี.ค. 2566

กราบอนุโมทนาครับ