ถ้ายังไม่รู้ต่อไป ก็ทำสิ่งที่เป็นภัยกับตนเองและทำลายพระพุทธศาสนา
โดย khampan.a  22 มิ.ย. 2561
หัวข้อหมายเลข 29844

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ประมวลสาระสำคัญ
จากการสนทนาพิเศษ เรื่อง
"พระธรรมทูต และ ความไม่รู้ทำลายพระพุทธศาสนา"
ที่บ้านคุณทักษพล - คุณจริยา เจียมวิจิตร
วันศุกร์ที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๑




~ พระธรรมทูต ไม่ใช่พูดเรื่องอื่น แต่พูดคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วที่จะให้คนอื่นมีความเข้าใจได้
~ ถ้าจะเรียนวิชาการต่างๆ แล้วจะบวชทำไม บวชเพื่อเรียนทางโลก เรียนวิชาการต่างๆ หรือ? หรือว่าพระธรรมมากมายซึ่งตลอดชีวิตก็ไม่สามารถที่จะจบได้ (ซึ่งควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง)
~ พระธรรม ต้องทบทวนบ่อยๆ เพื่อความเข้าใจที่มั่นคงและลึกซึ้งขึ้นและตามลำดับด้วย ซึ่งไม่มีวันจบ
~ การที่จะประกาศพระพุทธศาสนา นั้น ถ้าผู้นั้นไม่มีความเข้าใจพระธรรม จะประกาศได้อย่างไร
~ มีการประทุษร้ายกันทั่วบ้านทั่วเมือง ทุจริตทุกวงการ แล้วหมู่บ้านศีล ๕ ที่ใช้งบประมาณมาก ได้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เพิ่มขึ้นหรือลดลง? เพราะฉะนั้น เพราะความไม่เข้าใจพระธรรมซึ่งเป็นเรื่องละ ก็ทำให้คิดว่าจะต้องประกาศพระศาสนา แต่ผิดหรือถูก? ไม่ได้คิดถึงเลย ถ้าไม่มีความเข้าใจเลยแล้วประกาศ ก็ต้องผิด

~ เมื่อไหร่จะหยุดพูดเรื่องภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทองซึ่งเป็นเรื่องใหญ่? จะหยุดก็ต่อเมื่อพระภิกษุไม่รับเงินและทอง และทุกคนก็เข้าใจพระธรรมวินัยที่จะรู้ว่าภิกษุในธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง ชาวบ้านต้องเข้าใจด้วย เพราะว่าเป็นพุทธบริษัท
~ ถ้าพุทธบริษัทเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะมีใครกล้าคิดที่จะเปลี่ยนสิ่งที่พระองค์ได้ทรงบัญญัติไว้แล้วหรือ เพราะว่าผู้ที่เราเคารพสูงสุดคือผู้ที่มีปัญญาไม่มีบุคคลใดเปรียบได้ ใครจะรู้ยิ่งกว่าพระองค์ว่าควรจะบัญญัติสิกขาบทข้อใด เพราะฉะนั้น ผู้ที่เคารพจริงๆ ก็รู้ว่า ไม่มีการที่จะกล้าหรือคิดหรือบังอาจที่จะเปลี่ยนคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ถ้ามีใครแก้พระวินัยเพียงข้อเดียว ต่อไปก็แก้ได้หมดทุกข้อทีละข้อสองข้อ แล้วทำไมแต่ละข้อไม่คิดให้ดีว่ามีคุณมหาศาลแค่ไหน ลองพิจารณาแต่ละข้อเพื่อประโยชน์ของพระภิกษุที่จะได้อยู่อย่างสบาย ไม่ต้องมีกิจธุระภาระมากมายอย่างคฤหัสถ์
~ ข้อความในพระวินัย จะมีคำว่าคฤหัสถ์ เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนา ถ้าคฤหัสถ์ไม่เข้าใจธรรม ไม่เข้าใจวินัย จะเพ่งโทษได้อย่างไร แต่นี่เป็นคฤหัสถ์ เมื่อเห็นภิกษุที่ทำไม่ถูกต้อง ก็เพ่งโทษ ให้รู้ว่านี่เป็นโทษ ติเตียน คือ ทำอย่างนี้ไม่ได้ ไม่เหมาะต่อการที่จะเป็นภิกษุ และโพนทะนา คือ ประกาศให้รู้ทั่วกันว่าการกระทำอย่างนี้ไม่เหมาะควรแก่พระภิกษุ นี่คือ หน้าที่ของพุทธบริษัท
~ ชีวิตก็ไม่มีใครรู้ว่าจะยืนยาวแค่ไหน และสิ่งที่เคยมีมาแล้วในอดีตทุกอย่างก็ไม่มี แม้แต่ขณะนี้ สิ่งที่เกิดแล้วดับแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีก เพราะฉะนั้น สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดก็คือได้ทำให้คนอื่นมีความเข้าใจสิ่งที่ยังสามารถที่จะเข้าใจได้ พระธรรมยังไม่ถึงกับว่าสูญหายไปทีเดียว เพราะฉะนั้น ก็ต้องช่วยกันรักษาด้วยศรัทธาที่มั่นคง แม้ว่าไม่มีใครขอร้องไม่มีใครบอกแต่ทุกคนก็เต็มใจที่จะทำเต็มที่
~ ถ้าเป็นภิกษุแล้ว ต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย
~ สำหรับคฤหัสถ์ ก็เป็นของธรรมดา ศึกษาธรรม เข้าใจธรรม ละกิเลส แต่ก็ยังอยู่ในเพศของคฤหัสถ์
~ ผู้ที่ให้เงินแก่ภิกษุก็มีส่วนในการทำลายพระพุทธศาสนา เพราะเข้าใจว่าเป็นบุญแต่ก็เป็นบาปตั้งแต่เริ่มที่ไม่เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็เข้าใจผิดแล้วก็ส่งเสริมในสิ่งที่ผิดทั้งหมด

~ อยู่ได้โดยมีพระธรรมเป็นศาสดาแทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดีกว่ามีภิกษุซึ่งไม่ได้มีความเข้าใจธรรม พูดเรื่องอื่นทั้งหมด ไม่ได้พูดธรรมแล้วก็ประพฤติปฏิบัติเหมือนอย่างคฤหัสถ์แล้วอย่างนี้จะต้องการภิกษุอย่างนี้หรือ เพราะฉะนั้น คฤหัสถ์ต่างหากที่เป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาโดยการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ที่เป็นภิกษุกระทำกิจเหมือนกับคฤหัสถ์
~ ภิกษุรับเงิน คฤหัสถ์ก็รับเงิน แล้วจะต่างกันตรงไหน เพราะว่าคฤหัสถ์ก็ศึกษาธรรมได้ ใครๆ ก็ศึกษาธรรมได้ แต่พระภิกษุต้องศึกษาธรรมแน่ มิฉะนั้น จะบวชทำไม บวชแล้วสละเพศคฤหัสถ์ ไม่ทำกิจของคฤหัสถ์ แล้วกลับมาทำกิจของคฤหัสถ์แล้วก็มีเงินมีทองเหมือนอย่างคฤหัสถ์ จะต่างกันตรงไหน
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงส่งเสริมให้คนไม่รู้หรือว่าให้รู้? ทรงส่งเสริมให้รู้, เพราะฉะนั้น ถ้าทำทุกอย่างด้วยความไม่รู้แล้วยังคงจะคิดจะทำต่อไปไหม เพราะทำอย่างไรๆ ก็ไม่รู้?
~ จะเห็นคุณของพระธรรม อานุภาพของคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ธรรมเตชะ จากไม่รู้อะไรเลย ภายหลังก็สามารถที่จะรู้ได้เมื่อได้ฟังคำที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงๆ

~ กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป ตลอดไป เพื่อโอกาสของคนที่มีโอกาสจะไตร่ตรองว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะถ้าไม่รู้ต่อไป ก็ทำสิ่งที่เป็นภัยกับตัวเองและทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ ความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่ติดตามไปได้ทุกภพชาติ ไม่เหมือนคนที่อยากจะร่ำรวยในชาตินี้แต่ไม่มีความเข้าใจธรรมเลย

~ ธรรมเตชะ อานุภาพหรือเดชของพระธรรม ถ้าได้ยินได้ฟังแล้วเป็นคนมีเหตุมีผล ก็ไตร่ตรองอย่างละเอียด ทุกประการ ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น ก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแค่ถูกชวนแล้วก็ทำโดยที่ว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยทั้งสิ้น และอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธศาสนายังมีอยู่พร้อมที่จะให้ได้ไตร่ตรองและพิจารณาว่าอะไรถูก อะไรผิด ไม่ใช่ว่าอ้างยกคำมาแต่ว่าไม่ได้เข้าใจหรือว่าเข้าใจผิดหรือว่าเปลี่ยนความหมาย เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของพระธรรมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แล้วเราก็ไม่ได้คำนึงเฉพาะวงศาคณาญาติ แต่ญาติทั้งโลก ไม่ใช่แต่เฉพาะพี่น้องสองสามคนหรือ ๑๐ คน คน เพราะเหตุว่าพระพุทธศาสนาสำหรับผู้ที่ได้สะสมบุญที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนจึงมีโอกาสได้ยินได้ฟังและเมื่อได้ยินได้ฟังแล้วจะรู้ว่าไม่มีสิ่งใดที่มีค่าเท่ากับคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งสามารถที่จะทำให้ความไม่รู้ค่อยๆ หมดไปจนกระทั่งเป็นความรู้ รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ปัญญาที่รู้ถูกก็นำไปในกิจทั้งปวง (ที่เป็นความดี) .
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย panasda  วันที่ 22 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย peem  วันที่ 22 มิ.ย. 2561

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย Somporn.H  วันที่ 24 มิ.ย. 2561

ปัญญาที่รู้ถูกเห็นถูก นำไปในกิจทั้งปวง (ที่เป็นความดี)

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย thilda  วันที่ 26 มิ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 5 ก.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ