กลุ้มใจเป็นผลของกรรมไหม
โดย ธรรมทัศนะ  10 พ.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 51400

นี่ยังไม่ใช่การรับผลของกรรมจริงๆ เพราะถ้ารับผลของกรรมจริงๆ ต้องเห็นสิ่งที่ไม่ดีทางตา ได้ยินเสียงที่ไม่ดีทางหู ได้กลิ่นที่ไม่ดี ลิ้มรสที่ไม่ดี และกายเป็นทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ถ้าร่างกายยังแข็งแรงดี ก็ไม่ควรที่จะกลุ้มใจอะไร คอยรับผลของกรรมทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายจริงๆ และ กันเรื่องวิตกกังวลเดือดร้อนออกไป เพราะว่าในขณะนั้นไม่ใช่ผลของกรรม

ถ้าใครอยู่บ้าน เมื่อวานนี้เป็นสุข แต่วันนี้เป็นทุกข์ บ้านก็คือบ้านเก่า และจักขุวิญญาณก็เกิดเห็นสิ่งต่างๆ ในบ้าน ซึ่งอาจจะเป็นดอกไม้สวยๆ หรืออาจจะ เป็นอะไรก็ได้ตามปกติ แต่ทำไมใจเป็นทุกข์

วิบากเหมือนเดิม คือ ถ้าเป็นกุศลวิบากทางตา ก็เห็นสิ่งที่น่าพอใจ แต่เวลาที่ใจเดือดร้อนและระลึกขึ้นมาได้ว่า ขณะนี้ไม่ใช่การรับผลของกรรม เป็นแต่เพียงกิเลสของเราเองที่ทำให้จิตใจกระสับกระส่ายกระวนกระวายเดือดร้อน ก็จะบรรเทาได้ว่า นี่ยังไม่ใช่การรับผลของกรรมจริงๆ เพราะถ้ารับผลของกรรมจริงๆ ต้องเห็นสิ่งที่ไม่ดีทางตา ได้ยินเสียงที่ไม่ดีทางหู ได้กลิ่นที่ไม่ดี ลิ้มรสที่ ไม่ดี และกายเป็นทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ เพราะฉะนั้น ถ้าร่างกายยังแข็งแรงดี ก็ไม่ควรที่จะกลุ้มใจอะไร

คอยรับผลของกรรมทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายจริงๆ และ กันเรื่องวิตกกังวลเดือดร้อนออกไป เพราะว่าในขณะนั้นไม่ใช่ผลของกรรม

จะกลุ้มใจ หรือไม่กลุ้มใจ วิบากจิตชนิดไหนจะเกิด ก็ต้องเกิดตามควรแก่กาลของวิบากนั้นๆ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1523


รับฟัง ... เป็นทุกข์เดือดร้อนโดยไม่ใช่ผลของกรรม



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 10 พ.ย. 2568

กลุ้มใจหรือไม่กลุ้มใจ ไม่ใช่ผลของกรรม

วิบากจิตชนิดไหนจะเกิด ก็ต้องเกิดตามควรแก่กาลของวิบากนั้นๆ คอยรับผลของกรรมทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายจริงๆ และ กันเรื่องวิตกกังวลเดือดร้อนออกไป เพราะว่าในขณะนั้นไม่ใช่ผลของกรรม

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ


ความคิดเห็น 2    โดย มังกรทอง  วันที่ 11 พ.ย. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา