คอยนามรูปปริจเฉทญาณ ยิ่งคอย ยิ่งช้า
โดย ธรรมทัศนะ  1 ต.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 51061

ไม่ควรจะมีการเจาะจงตั้งใจว่า จะต้องอย่างนี้ หรือจะต้องอย่างนั้น แต่ควรที่จะรู้ว่า ขณะใดที่สติเกิด เพราะมีเหตุปัจจัยให้สติระลึกลักษณะของสภาพธรรมนั้นๆ ที่กำลังปรากฏ โดยไม่มีเราไปแยก หรือไปจัดการ ไปจงใจว่า ขณะนี้ให้ระลึกทางตา และขณะต่อไปให้ระลึกทางหู อีกกี่เดือนกี่ปีให้ระลึกทางจมูก จนกระทั่งครบ ไม่ใช่มีความจงใจแม้แต่ว่า จนกระทั่งครบ


รับฟัง ...

คอยนามรูปปริจเฉทญาณ

ผู้ฟัง ตาเห็นรูปแล้วรู้ ขณะที่ระลึกรู้สิ่งที่ปรากฏทางตาก็เป็นรูปธรรม ระลึกที่อาการรู้ สภาพรู้ ก็เป็นนามธรรม เพียงเท่านี้ยังไม่เป็นนามรูปปริจเฉทญาณ การที่จะเจริญให้ถึงขั้นนามรูปปริจเฉทญาณ จะต้องระลึกรู้ทั้ง ๖ ทาง บ่อยๆ เนืองๆ ใช่ไหม

สุ. ไม่ควรจะมีการเจาะจงตั้งใจว่า จะต้องอย่างนี้ หรือจะต้องอย่างนั้น แต่ควรที่จะรู้ว่า ขณะใดที่สติเกิด เพราะมีเหตุปัจจัยให้สติระลึกลักษณะของ สภาพธรรมนั้นๆ ที่กำลังปรากฏ โดยไม่มีเราไปแยก หรือไปจัดการ ไปจงใจว่า ขณะนี้ให้ระลึกทางตา และขณะต่อไปให้ระลึกทางหู อีกกี่เดือนกี่ปีให้ระลึกทางจมูก จนกระทั่งครบ ไม่ใช่มีความจงใจแม้แต่ว่า จนกระทั่งครบ

ผู้ฟัง กรณีที่ผู้นั้นสติเพิ่งเริ่มระลึก อาจจะระลึกได้เป็นบางทางเท่านั้น คือ เป็นบางทวาร อาจจะเป็นทางตา หรือทางหูเท่านั้น โอกาสที่นามรูปปริจเฉทญาณ จะเกิด ย่อมไม่มี

สุ. ไม่มีใครรู้ถึงการสะสมของแต่ละภพแต่ละชาติ ชาติก่อนๆ เคยเจริญ สติปัฏฐานมามากแค่ไหน ชาตินี้อาจจะเพียงระลึกและสภาพธรรมปรากฏโดย ความเป็นอนัตตา แม้ว่าไม่ได้ระลึกทางอื่นเลยก็ได้

ผู้ฟัง เรารู้ได้หรือว่า เราเคยระลึกทางอื่นมาบ้างแล้ว

สุ. ไม่มีทางที่เราจะรู้อดีตของการสะสม

ผู้ฟัง ผมอาจจะเจริญทางอื่นมาแล้วมาก

สุ. จะรู้ได้อย่างไร เมื่อไม่รู้ก็ไม่รู้

ผู้ฟัง งั้นชาตินี้ เอาทางตาอย่างเดียว

สุ. ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องตัวตนจะเอา แต่เป็นเรื่องที่ว่า ขณะนี้กำลังเห็น ธรรมดาๆ อย่างนี้ รู้ไหมว่าไม่ใช่ตัวตน ถ้าไม่รู้แล้วจะไม่เอา ได้ไหม หรือเมื่อไม่รู้แล้ว ก็ระลึกศึกษาเพิ่มขึ้นจนกว่าจะรู้ เพราะว่าปัญญามีเครื่องทดสอบ ตามี หูมี จมูกมี ลิ้นมี กายมี ใจมี ขณะใดที่สติระลึกแล้วรู้ไหม ไม่ต้องถามคนอื่นด้วยว่ารู้ไหม แต่ เป็นเรื่องที่สามารถรู้ได้จริงๆ ว่า สภาพรู้กับสิ่งที่ปรากฏทางตานั้นต่างกัน ถ้ายังไม่รู้ หน้าที่ต่อไป คือ ศึกษา พิจารณา น้อมไปที่จะรู้ว่า ธาตุรู้เป็นอย่างนี้ และ สิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ใช่ธาตุรู้ เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่ปรากฏเท่านั้น

ผู้ฟัง น้อมแล้ว ไม่รู้จะต้องน้อมไปอีกแค่ไหน

สุ. ยังไม่รู้อยู่ตราบใด ก็อบรมเจริญไปเรื่อยๆ รู้สึกว่าจะคอย นามรูปปริจเฉทญาณ แต่ยิ่งคอย ยิ่งช้า [ตอนที่ 1600]