สัญญาไม่เที่ยง
โดย boonyarit  24 ก.พ. 2566
หัวข้อหมายเลข 45601

ขอความกรุณาอธิบายขยายความว่า สัญญาไม่เที่ยงอย่างไร



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 25 ก.พ. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สัญญา เป็นสภาพที่จำในอารมณ์ อารมณ์คือสิ่งที่จิตรู้ สัญญาเป็นสภาพที่เกิดกับจิตทุกขณะ เมื่อจิตรู้อารมณ์ใด สัญญาก็จำในอารมณ์นั้น สัญญาเป็นสภาพที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย มีอายุที่สั้นแสนสั้น เกิดแล้วก็ดับไป ไม่ดำรงอยู่นาน จากที่ไม่มี แล้วเกิดมีเพราะเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไป นี้คือ ความไม่เที่ยง และไม่ใช่เฉพาะสัญญาเท่านั้นที่ไม่เที่ยง แต่สภาพธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งหมด ล้วนเป็นสภาพที่ไม่เที่ยง
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
ขันธสูตร ว่าด้วยเบญจขันธ์ไม่เที่ยง

คำว่า ไม่เที่ยง คือ การหมดสิ้นไป ด้วยอรรถว่า มีแล้วหามีไม่
อนิจฺจธมฺม [คำที่ ๔๙๙]

...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย boonyarit  วันที่ 25 ก.พ. 2566

ขอบพระคุณ อาจารย์อย่างสูง ที่สับสนเนื่องจากได้พบบทความต่างๆ ที่พูดถึงผู้ที่จดจำอดีตชาติได้ หรือบทความทำนองว่า สัญญา เหมือนจิตใต้สำนึก ถ้ามีเหตุปัจจัยที่เหมาะ ก็จะสามารถจดจำสิ่งที่ผ่านไปได้ เลยคิดว่ามันยังคงอยู่ ไม่สูญหาย เพียงแต่ยังไม่มีปัจจัยให้จดจำได้ ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไรครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 25 ก.พ. 2566

เรียน ความคิดเห็นที่ ๒ ครับ
ธรรมละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง สิ่งที่เคยสะสม ไม่ว่าจะเป็นกุศล หรือ อกุศล ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ และ สัญญา สภาพที่จำ ก็จะอยู่ทุกขณะ ที่กล่าวถึงการจำอะไรต่างๆ ไว้ เหมือนกับว่าสัญญา เที่ยง ไม่ได้สูญหาย นั้น ความจริงแล้ว สภาพธรรมเกิดแล้วดับ แต่ขณะที่จำได้ นั้น ก็เพราะมีสภาพธรรมเกิดร่วมกันมากมาย ทั้งวิตักกเจตสิก สภาพที่ตรึกนึกถึงในอารมณ์นั้น วิจาระ ก็ประคองตามอารมณ์ นั้น และขณะนั้นสัญญาก็เกิดร่วมด้วยเช่นกัน เป็นต้น ทั้งหมดแสดงถึงความเป็นจริงของธรรม ที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา
ส่วนประเด็น ที่พูดถึงจำชอดีตชาติได้ ผู้ศึกษาพระธรรมเข้าใจแล้ว ก็จะไม่หลงเชื่อ แม้เพียงถามว่า เมื่อวานนี้ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รับประทานอะไรมาบ้าง ก็ยังยากที่จะตอบได้หมด ไม่ต้องพูดถึงการจำชาติก่อนๆ ได้
ข้อที่น่าพิจารณา คือ ในภูมิมนุษย์ บุคคลผู้อบรมเจริญฌาน ได้อภิญญาก็สามารถที่จะระลึกชาติหนหลังได้ สำหรับในสวรรค์ เทวดา ก็สามารถที่จะระลึกชาติได้ ว่า ชาติก่อนไปทำอะไรมาจึงได้มาเกิดในสรรค์ เพราะการเกิดเป็นเทวดา เกิดผุดขึ้นทันที (โอปปาติกะ) ช่วงระหว่างบุคคลใหม่ กับบุคคลเก่าต่อเนื่องกันทันที เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น จึงสามารถที่จะระลึกได้

ส่วนในอบายภูมิ โดยปกติ ผู้ที่เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานไม่สามารถที่จะระลึกชาติได้ แต่ถ้าเกิดเป็นสัตว์นรก เกิดเป็นเปรตและพวกอสุรกายจำพวกโอปปาติกกำเนิด (เกิดผุดขึ้นเป็นตัวทันที) ก็สามารถที่จะระลึกถึงกรรมในอดีตชาติของตนเองได้ กล่าวคือ จำได้ว่าตนเองกระทำกรรมอะไรมา จึงทำให้ได้เกิดมาเป็นอย่างนี้ ครับ
...ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย boonyarit  วันที่ 25 ก.พ. 2566

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 11 มี.ค. 2566

ขออนุโมทนาครับ