[คำที่ ๗๔๑] เสฏฺฐ
โดย Sudhipong.U  30 ต.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 51312

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ เสฏฺฐ

โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย

เสฏฺฐ อ่านตามภาษาบาลีว่า เสด - ถะ แปลว่า บุคคลผู้ประเสริฐสุด , บุคคลผู้สูงสุด

บุคคลผู้ประเสริฐสุด บุคคลผู้สูงสุดกว่าสัตว์โลกทั้งปวงนั้น มุ่งหมายถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ที่ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงมีพระมหากรุณาเกื้อกูลสัตว์โลก เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ก็เพื่อทรงประพฤติประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลก ไม่มีผู้ใดจะมีพระคุณอันประเสริฐเทียบเท่ากับพระสัมมา-สัมพุทธเจ้าได้เลย

ในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาขุททกนิกาย พุทธวงศ์ ได้มีข้อความแสดงความเป็นจริงของคำว่า บุคคลผู้ประเสริฐสุด บุคคลผู้สูงสุด ดังนี้

บทว่า สพฺพเสฏฺโฐ ความว่า ข้าแต่พระมหาวีระ พระองค์เป็นผู้ประเสริฐสุด สูงสุดกว่าชนเหล่านั้นทั้งหมด ชนไรๆ ที่เสมอเหมือนพระองค์ ไม่มีในโลก


บุคคลผู้ที่ประเสริฐที่สุด เลิศที่สุดในโลก ไม่มีผู้ใดเปรียบได้เลย คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ตรัสรู้สิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริงโดยชอบด้วยพระองค์เอง กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้นเป็นเวลาที่นานมาก ทรงบำเพ็ญพระบารมีคุณความดีที่จะทำให้ถึงฝั่งแห่งการดับกิเลสมาตลอดระยะเวลาสี่อสงไขยแสนกัปป์ เมื่อได้ตรัสรู้แล้วก็ทรงมีพระมหากรุณาที่จะเกื้อกูลสัตว์โลก ด้วยการทรงแสดงพระธรรมให้ได้เข้าใจความจริง ให้สัตว์โลกจากที่เคยเป็นผู้มากไปด้วยกิเลสประการต่างๆ ได้เข้าใจและสามารถที่จะขัดเกลาละคลายและดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ด้วยปัญญาอันเกิดจากการได้ฟังพระธรรมทรงแสดง การที่พระองค์ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริงซึ่งเป็นธรรม ให้คนอื่นได้รู้ได้เข้าใจด้วย เป็นพระคุณอันสูงสุดยิ่งของพระองค์ที่มีต่อสัตว์โลก

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกอบด้วยพระบริสุทธิคุณ ทรงดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาด ทรงมีความบริสุทธิ์ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ โดยไม่มีใครเสมอเหมือน ทรงประกอบด้วยพระปัญญาคุณ ทรงมีพระปัญญาที่รู้สภาพธรรมทุกอย่างโดยละเอียดโดยประการทั้งปวงถึงที่สุด และทรงประกอบด้วยพระมหากรุณาคุณ ทรงมีพระหฤทัยประกอบด้วยความกรุณาเกื้อกูลสัตว์โลก ด้วยการแสดงพระธรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง

ถ้าจะมีคำถามให้แต่ละคนได้คิดพิจารณาว่า เราเกิดมา สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคืออะไร? แต่ละคนก็อาจจะตอบกันไปคนละอย่าง แต่สำหรับคนที่ได้ยินคำว่า “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” และได้สะสมความเห็นถูก ที่เห็นประโยชน์สูงสุดในชีวิต ก็จะเข้าใจว่าทุกคนเกิดแล้วต้องตาย สิ่งที่คิดว่าได้มาแล้วทั้งหมดทุกวัน แม้แต่เมื่อวานนี้ เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไหน ความสุขเมื่อวานนี้อยู่ที่ไหน เรื่องสนุก อาหาร หรือว่าลาภยศก็ตาม จะติดตามไปถึงโลกหน้าได้ไหม เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้วในหนึ่งชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์ได้อะไร แต่ถ้าไม่ได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่รู้คุณค่าเลยว่า สิ่งที่มีค่าเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ ปัญญา ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องได้อาศัยพระธรรมแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว

ถ้ามีความเข้าใจอย่างนี้จะเห็นพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้ด้วยพระปัญญาที่สามารถแทงตลอดความจริงของสภาพธรรมซึ่งคนอื่นไม่สามารถจะรู้ได้ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม เมื่อทรงตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาว่าสัตว์โลกมากไปด้วยความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย ถ้าไม่มีผู้อนุเคราะห์เกื้อกูลด้วยการแสดงความจริง ก็ไม่มีทางที่ความเข้าใจถูกเห็นถูกจะเกิดขึ้นได้เลย พระองค์จึงทรงแสดงพระธรรม ด้วยพระหฤทัยที่ประกอบด้วยพระมหากรุณาแก่สัตว์โลกไม่ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ไกลแสนไกลเพียงใด แต่ว่าได้สะสมเหตุที่ดีมาที่จะได้รับประโยชน์จากพระธรรมพระองค์ก็เสด็จไปเพื่อทรงแสดงพระธรรม โดยที่ไม่คำนึงว่าบุคคลนั้นเป็นใคร อยู่ที่ไหน เมื่อพระองค์สามารถจะช่วยให้เขาพ้นจากความมืดสนิทและกรงกิเลสของสังสารวัฏฏ์ได้ ก็ทรงเกื้อกูลด้วยการทรงแสดงพระธรรม

แต่ละคนที่เข้าใจพระธรรม ย่อมจะซาบซึ้งในพระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเป็นผู้ที่มั่นคงที่จะรู้ว่ากว่าพระองค์จะทรงตรัสรู้ความจริง ต้องบำเพ็ญพระบารมีมากกว่าบุคคลอื่น ยากแสนยากเพียงใด และเมื่อได้ทรงตรัสรู้แล้วก็ทรงประพฤติเกื้อกูลแก่สัตว์โลกด้วยการทรงแสดงพระธรรมมาตลอด ๔๕ พรรษา จนกระทั่งถึงวาระที่พระองค์ใกล้จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ใครจะมีพระคุณยิ่งใหญ่เสมอเหมือนกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ? ความเกื้อกูลของพระองค์ ทำให้ความไม่รู้ของสัตว์โลกที่มีมานานแสนนานในสังสารวัฏฏ์สามารถจะดับหมดได้ และพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงนั้น ก็สืบทอดเรื่อยมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยจนถึงยุคนี้สมัยนี้ พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงพร้อมที่จะให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ที่เห็นคุณค่า

ทุกคำที่พระองค์ตรัสนั้น ไม่มีแม้แต่คำเดียวที่ให้โทษ มีแต่เป็นคำจริง เป็นคำอนุเคราะห์ให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้น ที่ควรค่าแก่การฟังการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง บุคคลผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงด้วยความเคารพละเอียดรอบคอบ ก็ย่อมจะได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่ทรงแสดงตามกำลังปัญญาของตนเองซึ่งเป็นการยากมากที่จะได้ฟังและยากที่จะเข้าใจ แต่สามารถที่จะเข้าใจได้ เพราะมีบุคคลผู้ที่เข้าใจเป็นพยานในการตรัสรู้ของพระองค์แล้ว เพราะฉะนั้น จึงควรเห็นประโยชน์ของความเข้าใจพระธรรม ซึ่งก็คือปัญญา อันจะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับชีวิต ทั้งในโลกนี้และในโลกหน้าด้วย ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ทำให้พ้นจากทุกข์ได้ ติดตามไปในโลกหน้าก็ไม่ได้ แต่ปัญญาสะสมสืบต่ออยู่ในจิต เป็นที่พึ่งได้ สามารถทำให้พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ การที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นบุคคลประเสริฐสุด สูงสุดกว่าชนทั้งปวง ได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ด้วยความเคารพละเอียด รอบคอบ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานเป็นอย่างยิ่งในการอบรมเจริญปัญญา

อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 30 ต.ค. 2568

กาลเวลาที่ยาวนานอบรมเจริญปัญญา

การที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้ ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นบุคคลประเสริฐสุด สูงสุดกว่าชนทั้งปวง ได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ด้วยความเคารพละเอียด รอบคอบ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งจะต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานเป็นอย่างยิ่งในการอบรมเจริญปัญญา

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ