สักกายทิฏฐิ
โดย papon  22 พ.ย. 2557
หัวข้อหมายเลข 25824

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

"สักกายทิฏฐิ" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้อรรถาธิบายในคำนี้ด้วยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 22 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรม คือ ขันธ์ ๕ ว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นของเรา ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรม (ตามที่คุณนิรมิตได้แสดงความคิดเห็นมา) ขึ้นชื่อว่าความเห็นผิดแล้ว (มิจฉาทิฏฐิ) เป็นสภาพธรรมที่เห็นคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ไม่ตรงตามความเป็นจริง แม้แต่ความเห็นผิดที่เป็นสักกายทิฏฐิก็เช่นเดียวกัน

เป็นความเห็นผิดประการหนึ่งที่เห็นผิดในสภาพธรรมที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ว่าเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล และยังครอบคลุมถึงเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วย เพราะแท้ที่จริงแล้ว ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นแต่เพียงสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้น แต่เพราะยังไม่ได้ดับความเห็นผิดได้อย่างเด็ดขาด ยังมีพืชเชื้อของความเห็นผิดอยู่ ความเห็นผิดประเภทนี้ก็ย่อมจะเกิดขึ้นได้ เพราะตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่สามารถดับความเห็นผิดใดๆ ได้เลย ความเห็นผิดทุกประการจะถูกดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน

ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็ยังไม่สามารถดับความเห็นผิดใดๆ ได้เลย แต่ความเห็นผิดทุกประการจะถูกดับได้อย่างหมดสิ้น เมื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบัน พระโสดาบันดับความเห็นผิดได้อย่างหมดสิ้น สักกายทิฏฐิ ซึ่งเป็นความเห็นผิดที่ยึดถืดสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลก็ดับได้ ไม่เกิดขึ้นอีกเลย พระโสดาบันไม่มีความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล

การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม มีประโยชน์อย่างยิ่ง ขณะที่ฟังแล้วเข้าใจ ขณะนั้นกุศลธรรมเจริญขึ้น ศรัทธา ปัญญา เป็นต้น เกิดขึ้นเป็นการขัดเกลาละคลายความเห็นผิด รวมถึงอกุศลธรรมประการอื่นๆ ด้วย ขณะที่กุศลธรรมเกิด อกุศลธรรมจะเกิดร่วมด้วยไม่ได้ และความเห็นผิดจะถูกดับได้อย่างเด็ดขาดเมื่ออบรมเจริญปัญญาถึงความเป็นพระโสดาบัน เมื่อนั้นความเห็นผิดจะไม่เกิดขึ้นอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ซึ่งจะต้องเริ่มสะสมอบรมความเข้าใจถูกเห็นถูก ไปตามลำดับจริงๆ ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย peem  วันที่ 22 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 22 พ.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทุกขณะมีแต่ธรรมเกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้น ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน กล่าวได้ว่า ไม่มีตัวเราแทรกอยู่ในจิต เจตสิก และรูปเลย มีแต่ธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไป แต่ที่ยังมีความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคล ก็เพราะว่ายังมีความเห็นผิดที่ยังไม่ได้ดับ ซึ่งจะต้องค่อยๆ ฟังค่อยศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ เพิ่มพูนความมั่นคงในความเป็นจริงของสภาพธรรมยิ่งขึ้น จนกว่าจะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระโสดาบันบุคคล ก็จะสามารถละความเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ได้ ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 22 พ.ย. 2557

สักกายทิฏฐิ คือความเห็นผิด ยึดมั่น ถือมั่นในขันธ์ทั้ง 5 ว่าเป็นตัวเรา ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย papon  วันที่ 23 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย tanrat  วันที่ 23 พ.ย. 2557

ประโยคที่ว่าระลึกบ่อยๆ เนืองๆ นับว่าเกื้อกูลยิ่ง กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสอง

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ประสาน  วันที่ 23 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย PornchaiSe  วันที่ 23 พ.ย. 2557

สักกายทิฏฐิ ต่างจากนิยตมิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิดที่ดิ่ง _ รุนแรง _ มั่นคงดุจคีมจับเหล็กร้อนแดงของนายช่างเหล็ก) เช่นเห็นผิดว่าพ่อแม่ไม่มีคุณ/ปฏิเสธนรกสวรรค์/ปฏิเสธพระรัตนตรัย เป็นต้น


ความคิดเห็น 10    โดย Dechachot  วันที่ 23 พ.ย. 2557

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย นกขมิ้น  วันที่ 28 พ.ย. 2557

สาธุ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 27 พ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ