การทำสมาธิ ไม่ใช่ ..ส ม ถ ภ า ว น า
โดย บ้านธัมมะ  2 ธ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5735

คลิกฟัง...

ปัญญารู้อะไรในสมถภาวนา

ขอเชิญรับฟังหัวข้ออื่นๆ ...

ที่นี่ > สมถภาวนา

มีหลายท่าน ซึ่งคงจะได้เจริญสมาธิมาแล้ว แล้วก็คิดว่าขณะนั้นเป็นสมถภาวนา แต่ว่าขอให้ท่านพิจารณาว่า ปัญญารู้อะไร ในขณะนั้นจึงจะสงบ จึงจะเป็นสมถภาวนา ถ้าขณะนั้นไม่ได้รู้อะไรเลย จะเป็นความสงบไม่ได้ และการที่จะรู้ ต้องรู้ลักษณะของจิตตามความเป็นจริงของท่าน ไม่ใช่ของบุคคลอื่น เพราะฉะนั้น การอบรมเจริญสมถภาวนา ไม่ใช่ว่าอ่านวิสุทธิมรรค หรือว่าพระไตรปิฎก แล้วก็รู้ว่า อารมณ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมถภาวนานั้น มีอะไรบ้าง เพียงอ่านแล้วก็ไปใช้อารมณ์นั้น เช่น รู้ว่าอารมณ์ของสมถภาวนานั้นได้แก่กสิณ ๑๐ ท่านก็จะไปดู ไปจ้องที่กสิณ แล้วก็คิดว่าจิตจะสงบขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย จิตอาจจะเป็น สมาธิ แต่ไม่ใช่กุศลจิตซึ่งเป็นความสงบ เพราะฉะนั้น ความสงบนี่คะ ไม่ใช่อยู่ที่อารมณ์ คือไม่ใช่อยู่ที่กสิณ ไม่ใช่ว่าใครก็ตามจะไปดู ไปจ้องที่กสิณแล้วจะสงบทุกคน ไม่ใช่อย่างนั้นคะ แต่ว่าบุคคลใดซึ่งมีปัญญารู้เหตุที่จิตสงบเพราะ ระลึกอยู่ที่กสิณซึ่งเป็นอารมณ์ในขณะนั้นด้วยปัญญา และรู้ลักษณะสภาพของจิตที่สงบจริงๆ ในขณะนั้นซึ่งเป็นกุศล ลักษณะของกุศลจิต สงบ เมื่อจิตเป็นกุศล ก็รู้ในลักษณะที่สงบของจิต ซึ่งเป็นกุศล และความสงบ เพิ่มขึ้น เพราะระลึกรู้อยู่ที่อารมณ์ที่ทำให้จิตสงบได้นาน เพราะฉะนั้น ความสงบที่ประกอบด้วยสมาธิที่ตั้งมั่นและเพิ่มขึ้น ปรากฏด้วยสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ตามปกติ แล้วก็มีความรู้ชัดพร้อมกับความสงบยิ่งขึ้น ในอารมณ์นั้น จึงจะเป็นการเจริญสมถภาวนา



ความคิดเห็น 1    โดย อิสระ  วันที่ 6 ธ.ค. 2550

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย pornchai.s  วันที่ 31 ม.ค. 2551

สมาธิ เป็น กุศลก็ได้ เป็น อกุศลก็ได้ แต่สมถะและวิปัสสนาต้องเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาที่รู้ลักษณะของธัมมะ

อนุโมทนาสาธุ ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 11 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 12 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ