สงสัยเรื่องพระคุณของพ่อแม่ค่ะ
โดย Stamp  17 ก.ค. 2557
หัวข้อหมายเลข 25120

หนูสงสัยว่า ถ้าพ่อแม่ของเราไม่ได้เลี้ยงดูเราตั้งแต่เล็ก ฝากให้คนอื่นเลี้ยง มาหาทีหนึ่งก็แค่มาขอเงิน เอาเงินไปเที่ยว ดื่มเหล้า ไม่เคยมีเงินเก็บเลย แต่พอถึงตอนที่พ่อแม่เริ่มแก่ลง และเกษียณ จึงได้กลับมาหาเรา มาขอเงิน มาอยู่ด้วย และได้นำหนี้สิน บ้าน รถ มือถือ อื่นๆ ทั้งที่เขานำแต่ความทุกข์มาให้ และไม่เลี้ยงเราเลย เราควรที่จะต้องทดแทนพระคุณของพ่อแม่เหรอค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 17 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตของแต่ละบุคคลก็เป็นไปตามการสะสม แต่ละคนเป็นแต่ละหนึ่งไม่เหมือนกันเลย แม้ว่าบุคคลอื่นจะเป็นอย่างไร มีพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างไร ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล เราควรทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ที่สุด คือ เป็นคนดี เป็นลูกที่ดี ทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุด และขอให้มีกำลังใจที่ดี ที่จะมีชีวิตอยู่ เพื่อฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา และเจริญกุศลประการต่างๆ สะสมเป็นที่พึ่งให้กับตนเองต่อไป เพราะสิ่งอื่นไม่สามารถที่จะเป็นที่พึ่งได้ นอกจากกุศลธรรมเท่านั้น

ประโยชน์ของการมีชีวิต คือ เพื่ออบรมเจริญปัญญา จากที่ไม่เคยเข้าใจความจริงเลย จากที่เต็มไปด้วยความมืด คือ อวิชชา ก็จะค่อยๆ เข้าใจขึ้น สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก ในสภาพธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญญาเจริญขึ้นก็จะทำให้เป็นผู้มีชีวิตที่ดำเนินไป ด้วยปัญญาตามที่ตนมี เปลี่ยนจากที่เคยอยู่ด้วยกิเลสประการต่างๆ มากมาย มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เป็นผู้อยู่ด้วยปัญญา และกุศลที่เพิ่มขึ้น ชีวิตเป็นสุขขึ้นด้วยปัญญา ปัญหาจะค่อยๆ น้อยลงเมื่อปัญญาเจริญขึ้น เพราะแท้ที่จริงแล้วกิเลสเป็นต้นเหตุของทุกข์ เป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งปวง ปัญหามาจากจิตซึ่งเป็นไปกับด้วยกิเลสทั้งนั้น ปัญหาไม่ได้มาจากกุศลจิตเลย

กล่าวโดยสรุปแล้ว ปัญหาชีวิตโดยมาก เกิดจากกิเลสที่เคยสะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ เพราะยังดับกิเลสไม่ได้ ปัญหาของชีวิตก็คงมีอยู่เรื่อยๆ จากเรื่องหนึ่งก็ไปอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้เห็นถึงความน่ากลัวของสังสารวัฏฏ์ว่าเต็มไปด้วยทุกข์จริงๆ หนทางเดียวที่จะเป็นไปเพื่อความพ้นจากทุกข์ได้ ก็คือ การอบรมเจริญปัญญา

ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 17 ก.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แต่ละคน ก็มีความประพฤติเป็นไปตามการสะสม เป็นแต่ละหนึ่งๆ จริงๆ ในฐานะที่เป็นลูก ก็ต้องกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม ทดแทนพระคุณของแม่เท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากจะดูแลในความเป็นอยู่ของท่านให้เป็นสุขสบายแล้ว ลูกก็สามารถให้คำแนะนำที่ดีแก่ท่านได้ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด

ควรที่จะคำนึงถึงสาระสำคัญของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ว่า ยากแสนยากกว่าจะได้เกิดมา ก็ขอให้ตั้งใจทำในสิ่งที่ดี

สิ่งที่สำคัญขาดไม่ได้เลย คือ การฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก เพราะนี้แหละคือที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต เป็นทรัพย์ที่ประเสริฐที่จะติดตามตนไปได้ และความเข้าใจพระธรรม จะทำให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง ตามความเป็นจริง เข้าใจถึงการสะสมของแต่ละบุคคล ไม่หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของอกุศล ไม่ว่าจะประสบกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม ตามกำลังแห่งความเข้าใจที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 17 ก.ค. 2557

พ่อแม่ไม่ดีเป็นเรื่องของพ่อแม่ แต่เราทำดีกับท่าน ค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย thilda  วันที่ 18 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนาค่ะ ที่เราเกิดมาได้นี้ก็เพราะพระคุณของพ่อและแม่แล้วค่ะ ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง พ่อหรือแม่ก็มีกรรมของท่าน ผู้เป็นลูกก็มีกรรมของลูก เพียงแต่ต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย nopwong  วันที่ 19 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 6    โดย mild  วันที่ 20 ก.ค. 2557

โมหะลวงมานานแสนนาน จนมีวันนี้ขณะนี้ สัพพสัมภาระภาวนา เจริญกุศลทุกประเภท ตามกำลังและความสมควร นี่เป็นโชคดีแล้วที่จะได้เกื้อกูลบุพการีให้ได้เห็นถูกเข้าใจถูกตามคำสอนของพระผู้มีพระภาค เป็นการสร้างกุศลให้เกิด เพราะเมื่อกุศลไม่เกิด อกุศลก็เจริญ การที่ถามว่าต้องทดแทนบุญคุณไหม ควรถามตัวเองกลับว่า การที่พ่อแม่ให้กำเนิดเรามาโดยที่ไม่พิการทั้งตัวเราและผู้ให้กำเนิดนั้นสมควรแล้วที่เราต้องเกื้อกูลท่าน การเกื้อกูลที่ดีที่สุดคือ ให้ท่านเห็นถูก ให้ท่านมีปัญญา ด้วยการฟังธรรมและทำดีให้ท่านเห็น วิบากที่ได้รับทั้งสิ้นไม่มีผู้ใดทำให้แต่เป็นผลที่ต้องได้รับตามสมควรแก่เหตุ การถูกทิ้งเป็นเรื่องจริงที่เกิดแล้ว แต่ก็จบไปแล้วเช่นกัน

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย thehongpingping  วันที่ 1 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 12 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ