ปรากฎว่าผู้รับเอาหนังสือและ mp3 ของสำนักปฎิบัติที่เขาเคารพนับถือมาให้เรา คืนเป็นการตอบแทน ซึ่งหนังสือและ mp3 ของสำนักปฎิบัติที่เขาให้มานั้น ไม่ตรงกับแนวทางที่ผมได้ศึกษาที่มูลนิธิฯ จะบอกผู้ที่ให้สิ่งเหล่านี้กับเรามาอย่างไรดีครับ รวมทั้งหนังสือและ mp3 ที่เราได้รับตอบแทนมาจะทำอย่างไรกับวัสดุเหล่านี้ดีครับ (ได้มาเยอะมากครับ)

เบื้องต้นเราคงไม่สามารถพูดอะไรมากได้ คงต้องรับของๆ ของเขามาก่อนและขอให้เขาฟังที่เราให้ไป ส่วนสื่อที่ไม่ถูกต้องไม่ควรเผยแพร่ต่อไป ควรจะทำลาย เพื่อให้นำกระดาษไป Recycle ต่อไป ครับ

บุคคลไม่พึงยังประโยชน์ของตนให้เสื่อมเสีย เพราะประโยชน์ของคนอื่นแม้มาก รู้จักประโยชน์ของตนแล้ว พึงเป็นเป็นผู้ขวนขวายในประโยชน์ของตน (จาก คาถาธรรมบท) อนุโมทนา ในกุศลเจตนาของคุณ ควรทำตามที่ คห.๑ แนะนำค่ะ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 153

"ชนเหล่าใด มีปกติ รู้ ในสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่า เป็นสาระและเห็นในสิ่งอันเป็นสาระ ว่า ไม่เป็นสาระ ชนเหล่านั้น มีความดำริผิดเป็นโคจร ย่อมไม่ประสพสิ่งอันเป็นสาระ ชนเหล่าใด รู้ สิ่งเป็นสาระโดยความเป็นสาระ และรู้สิ่งไม่เป็นสาระโดยความไม่แป็นสาระ ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจร ย่อมประสพ สิ่งเป็นสาระ"

ขออนุโมทนาค่ะ

การรับของเพื่อรักษาความเป็นมิตร (อย่างน้อย ก็เพื่อช่วยให้เขาได้กระทำบุญสำเร็จเพราะมีผู้รับนะครับ) ผู้มีศรัทธา พึงรู้ได้โดยสถาน 3 (อนุเคราะห์พระธรรมแด่ผู้ที่มีศรัทธาก่อนผู้อื่น)

การได้มิตรดีสหายดีเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ทีแรกเขาอาจจะมีความเห็นผิด ต่อเมื่อมีเพื่อนแนะนำธรรมะที่ถูกต้องให้เขา ถ้าเขาสะสมบุญในอดีตมา ก็สามารถเปลี่ยนเป็นความเห็นถูกได้ เช่น ในครั้งพุทธกาล พ่อของสามีนางวิสาขามีความเห็นผิด ต่อมานางวิสาขาให้พ่อสามีฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าภายหลังก็ได้ดวงตาเห็นธรรมค่ะ

ขออนุโมทนาทุกท่านที่ช่วยให้ความกระจ่างครับ

มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เล่ม ๓ ภาค ๑ หน้าที่ ๑๘๙

เทวทหวรรคที่ ๑

จูฬปุณณมสูตรที่ ๑๐

สัตบุรุษเป็นผู้ภักดีต่อสัตบุรุษ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตบุรุษเป็นผู้ภักดีต่อสัตบุรุษอย่างไร คือ สัตบุรุษในโลกนี้ มีสมณพราหมณ์ชนิดที่มีศรัทธา มีหิริ มีโอตตัปปะ มีสุตะมาก มีความเพียรปรารภแล้ว มีสติตั้งมั่น มีปัญญา เป็นมิตร เป็นสหาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล สัตบุรุษชื่อว่าเป็นผู้ภักดีต่อสัตบุรุษ

พระธรรมไม่สาธารณะจริงๆ ครับ ยากที่ผู้ไม่ได้สะสมบุญ สะสมปัญญามาจะเห็นถูกว่าธรรมใดเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง เพราะยุคนี้ผู้คนพากันเชื่อถ้อยคำของเกจิอาจารย์ชื่อดัง เชื่อข้อปฏิบัติของสำนักที่มีชื่อกันเสียมาก น้อยคนจริงๆ ที่จะได้เข้ามาศึกษาธรรมที่ถูกต้อง ซึ่งตรงตามพระธรรมวินัยครับ

ขออนุโมทนาในธรรมทานครับ

ขออนุโมทนาครับ