ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ " สมฺมาทิฏฺฐิก"
โดย อ.คำปั่น อักษรวิลัย
สมฺมาทิฏฺฐิก อ่านตามภาษาบาลีว่า สำ - มา - ทิด - ถิ - กะ มาจากคำว่า สมฺมา (โดยชอบ) ทิฏฺฐิก (บุคคลผู้มีความเห็น) รวมกันเป็น สมฺมาทิฏฺฐิก แปลว่า บุคคลผู้มีความเห็นโดยชอบ, บุคคลผู้มีสัมมาทิฏฐิ
สัมมาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นโดยชอบว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็คือปัญญาเจตสิก ซึ่งเป็นเจตสิกธรรม (ธรรมที่เกิดประกอบกับจิต) ฝ่ายดีประการหนึ่ง เป็นสภาพที่เข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง เป็นสภาพธรรมที่ประเสริฐอย่างยิ่ง เป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดีเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน ทำให้กุศลธรรมเจริญยิ่งขึ้น และทำให้อกุศลธรรมค่อยๆ ถูกขัดเกลาละคลาย จนกระทั่งสามารถดับได้ตามลำดับขั้น สัมมาทิฏฐิหรือปัญญา เกิดกับผู้ใด มีกับผู้ใด ผู้นั้นก็เป็นบุคคลผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นโดยชอบ ซึ่งเมื่อมีความเห็นโดยชอบแล้ว ทุกอย่างก็จะดี คล้อยตามสัมมาทิฏฐิ ตามข้อความในพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต ดังนี้
“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เราไม่เล็งเห็นธรรมอย่างอื่นแม้ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง เหมือนกับสัมมาทิฏฐินี้เลย ดูกร ภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลเป็นผู้มีความเห็นชอบ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่ง”
สัมมาทิฏฐิหรือปัญญา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นนามธรรม เป็นความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เหตุที่ทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ที่สำคัญแล้วจะต้องเคยเป็นผู้เห็นประโยชน์ของพระธรรม มีศรัทธาที่จะฟัง ได้ฟังพระธรรมจากผู้ที่มีปัญญา และมีการไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังด้วยความละเอียดรอบคอบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้ผู้ฟังได้พิจารณาไตร่ตรอง เป็นความเข้าใจของผู้ฟังเอง ขอเพียงเป็นผู้เห็นประโยชน์ของการเข้าใจธรรมซึ่งหมายถึงสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นธรรม เพราะในการฟัง การศึกษาพระธรรมนั้น เป็นการศึกษาเพื่อให้เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังมีในขณะนี้จริงๆ ซึ่ง สภาพธรรมจริงๆ นั้น มีลักษณะเฉพาะของตนๆ โดยไม่ต้องใช้ชื่ออะไรๆ ก็ได้ แต่ที่มีชื่อหรือใช้ชื่อนั้น ก็เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่า กำลังกล่าวถึงอะไร เพื่อให้เข้าใจถึงตัวจริงของสภาพธรรมที่กำลังกล่าวถึงนั่นเอง เพราะการฟังพระธรรม จะต้องมีเรื่องที่กำลังฟัง และ ก็จะต้องเป็นผู้เข้าใจเรื่องของสภาพธรรมนั้นๆ ด้วย สิ่งสำคัญคือ ฟังแล้วเข้าใจในสิ่งที่กำลังฟัง ขอเพียงฟังให้เข้าใจจริงๆ ฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นปัญญาของตนเอง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีค่ามาก มีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติใดๆ ในโลกทั้งปวง ซึ่งถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง ไม่มีโอกาสได้ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้เลย บุคคลผู้ที่ฟัง ศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบเท่านั้น จึงจะเข้าใจและได้รับประโยชน์จากพระธรรมอย่างแท้จริง สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ การฟังพระธรรม เป็นโอกาสที่หายากในชีวิต เป็นการยากมากที่จะได้ฟัง เมื่อมีโอกาสแล้ว ได้พบพระธรรมแล้ว ก็ไม่ควรจะปล่อยโอกาสนั้นให้ผ่านไป ควรตั้งใจฟังด้วยความเคารพจริงๆ
การที่แต่ละบุคคลจะเข้าใจพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงมากน้อยเพียงใดนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการสะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งจะต้องฟัง พิจารณาไตร่ตรองบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษานั้น ไม่พ้นไปจากเพื่อให้เข้าใจสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวันว่า เป็นสิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่งๆ ซึ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน และไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น
เมื่อกล่าวถึงความเห็น มี ๒ ประเภท คือ ความเห็นผิด กับความเห็นถูก ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความเห็นผิด เป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นความเห็นที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เป็นความเห็นที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง
ความเห็นผิด ไม่ได้มีเฉพาะในยุคนี้สมัยนี้เท่านั้น แต่มีมาแล้วทุกยุคทุกสมัย ความเห็นผิดเป็นอกุศลธรรมที่อันตรายมาก มีโทษมาก เพราะว่าเมื่อมีความเห็นผิดแล้ว กาย วาจา ใจ ย่อมเป็นไปในทางที่ผิดทั้งหมด บางคนตนเองเห็นผิดแล้ว ยังแนะนำให้ผู้อื่นเห็นผิดตามไปด้วย ซึ่งเป็นโทษอย่างมาก ทำให้คนออกจากพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการปิดกั้นผู้อื่นไม่ให้มาสู่หนทางที่ถูกต้อง ส่วนความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ เป็นปัญญา เป็นสภาพธรรมที่เข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ถ้ามีความเห็นถูกตรงตามความเป็นจริงแล้ว กาย วาจา ใจ ย่อมเป็นไปในทางที่ถูก คล้อยตามความเห็นที่ถูกต้อง ทั้งหมด ความความเห็นถูก จะค่อยๆ เจริญขึ้นได้ ก็เพราะอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง บ่อยๆ เนืองๆ เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ด้วยความเคารพ ละเอียด และรอบคอบ เห็นประโยชน์ของคำที่มีค่าที่สุดในสังสารวัฏฏ์ สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป ความเข้าใจถูกเห็นถูกที่ได้สะสมไว้นี้ไม่สูญหายไปไหน สะสมสืบต่ออยู่ในจิตทุกขณะ ย่อมจะเป็นเหตุให้เป็นผู้มีความสนใจ เห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกต่อไปอีก เกื้อกูลให้ไม่หลงผิด ไม่ตกไปในฝ่ายที่ผิด เพราะฉะนั้น ความเห็นโดยชอบซึ่งเป็นความเห็นที่ถูกต้องนั้น จึงเป็นธรรมที่ไม่มีโทษเลย มีแต่คุณประโยชน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญสัมมาทิฏฐิหรือปัญญาเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ พระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงทั้งหมด เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในสิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริงโดยตลอด ซึ่งกว่าจะถึงความเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสัมมาทิฏฐิได้นั้น ก็ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย
ขอเชิญติดตามอ่านคำอื่นๆ ได้ที่..
บาลี ๑ คำ