เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
โดย เก็บมาฝาก  16 พ.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 3726

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 140
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไร สตรี บุรุษคฤหัสถ์หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความมัวเมาในชีวิตมีอยู่แก่สัตว์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลายประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เมื่อเขาพิจารณาฐานะนั้นอยู่เนืองๆ ย่อมละความมัวเมาในชีวิตนั้นได้โดยสิ้นเชิงหรือทำให้เบาบางลงได้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์นี้แล สตรี บุรุษ คฤหัสถ์ หรือบรรพชิต จึงควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดาไม่ล่วงพ้นความตายไปได้



ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 16 พ.ค. 2550

ถ้าเราพิจารณาทุกๆ วันว่าเราจะต้องตายแน่ๆ ในวันหนึ่ง ทำให้เราไม่ประมาทกับการทำความดี โดยเฉพาะขณะที่สติปัฏฐานเกิดระลึกสภาพธรรมที่มีจริงขณะนี้เป็นลาภที่ประเสริฐกว่าลาภ คือ ยศสรรเสริญใดๆ


ความคิดเห็น 3    โดย อารายเนี่ย  วันที่ 16 พ.ค. 2550

...เชิญคลิกอ่าน...

อายุของสัตว์ทั้งหลายเป็นของน้อย [จิตตสัมภูตชาดก]


ความคิดเห็น 4    โดย ply  วันที่ 16 พ.ค. 2550

เมื่อมีอะไรเกิดก็ต้องมีดับทันที ดับไปแล้ว และไม่กลับมาอีกดังท่านอาจาร์ยได้กล่าว ไม่มีแก่นสารอะไรเลยว่าเป็นเรา สัตว์ บุคคล ดับจริงๆ แต่เพราะเราเคยชินเสมือนว่าเห็นไม่ดับ เสียงไม่ดับ กลิ่นไม่ดับ รสไม่ดับ แข็งไม่ดับ เพราะโลภะปิดบัง


ความคิดเห็น 5    โดย vipanapa  วันที่ 16 พ.ค. 2550

เมื่อมีเกิด ก็ต้องมีตาย แน่นอนอยู่แล้ว แต่บอกตามตรงว่า ก็ยังกลัวตายอยู่ดีกลัวจะไม่ได้เกิดมาในอัตตภาพนี้ กลัวว่าจะต้องจากบุคคลอันเป็นที่รัก และสิ่งทั้งหลายที่สมมติว่าเป็นของเรา ไม่ว่าจะอ่านสักกี่ครั้ง ฟังสักกี่เที่ยว ก็ยังกลัว จะให้บอกว่าไม่กลัว ก็คงจะมุสา ถ้าถามว่าเข้าใจพระธรรมที่อ่าน หรือที่ได้ฟังไหม เข้าใจอย่างซาบซึ้งทั้งอรรถและพยัญชนะ แต่ขอสารภาพว่า เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ กลัวก็ส่วนกลัว จิตคนละขณะก็ปัญญาแค่นี้ จะละอะไรได้ สงสัยว่าคงเป็นเหมือนในพระสูตร เรื่องลูกหมูพี่น้องสองตัว ลูกหมูตัวน้องที่กลัวตาย เกิดอีกก็กลัวอีก สะสมความกลัวจนเป็นอุปนิสสัยที่ไม่ดี


ความคิดเห็น 6    โดย อิสระ  วันที่ 17 พ.ค. 2550
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 7    โดย Buppha  วันที่ 17 พ.ค. 2550

อนุโมทนาค่ะ

เกิดแล้วตาย เกิดอีกแล้วตาย เพราะได้กระทำกรรมมามากมายในอดีต ชาตินี้ได้ฟังพระธรรม ธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดง เป็นธรรมอันประเสริฐ ละเอียดสุขุม ลึกซึ้ง ลุ่มลึก และยากจะเห็นได้ แต่ท่านอาจารย์สุจินต์ ท่านได้นำพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มาแสดงได้ตรงตามพระธรรม ทำให้ได้ศึกษาได้ฟังตามควรแก่ความเข้าใจ

ขอกราบท่านอาจารย์ค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย ply  วันที่ 26 พ.ค. 2550

ชีวิตที่เกิดมา ถ้าไม่ศึกษาพระธรรมน่าเสียดายที่สุดในชาตินี้ เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้อาจจะไม่ได้เป็นบุคคลในชาตินี้ก็ได้ กุศลทำดีเท่าไรก็ไม่พอ ดังท่านอาจารย์ที่กล่าวมาแล้ว


ความคิดเห็น 12    โดย ply  วันที่ 31 พ.ค. 2550

เมื่อใดมีเกิด เมื่อนั้นมีทุกข์ เมื่อใดไม่มีเกิด เมื่อนั้นไม่มีทุกข์ หนทางเดียวคือ ศึกษาพระสัทธรรมโดยละเอียดแล้วน้อมนำมาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ปัญญาเกิดได้ที่ศรัทธา ไม่ได้เกิดด้วยโลภะ ที่สำคัญ คือ ศึกษาเพื่อละความไม่รู้ ละความเห็นผิด ละอกุศลที่หนาแน่น


ความคิดเห็น 13    โดย nida  วันที่ 10 เม.ย. 2552

สิ่งที่หน้ากลัวกว่าความตาย คือการเกิด รองลงมาคือ การไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังเกิดดับอยู่ตรงหน้า เด็กทารกเกิดจากมารดาใหม่ๆ ทุกคนต้องร้องไห้เสียใจเพราะต้องทุกข์อีกแล้ว ในชาตินี้อีก


ความคิดเห็น 14    โดย peem  วันที่ 1 ก.พ. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 15    โดย chatchai.k  วันที่ 6 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ