ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๑๖

~ ตลอดเวลาที่พระผู้มีพระภาคยังไม่ทรงดับขันธปรินิพพาน ทรงถึงพร้อมด้วยพระอัธยาศัยและพระอุตสาหะที่จะอุปการะแก่สัตว์โลกเป็นนิตย์ แม้ในเหล่าสัตว์ผู้มีความผิด ทรงมีความอดทนที่จะรอเวลาที่แก่กล้าแห่งอินทรีย์ของผู้ที่ยังไม่ได้อบรมปัญญามาถึงความแก่กล้าทรงอุตสาหะที่จะรอเวลานั้นที่จะเกื้อกูลอนุเคราะห์บุคคลนั้นให้สามารถที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
~ ตั้งแต่พระผู้มีพระภาคได้ทรงตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงถึงพร้อมด้วยสัตตูปการสัมปทา คือ ถึงพร้อมด้วยพระอัธยาศัยและพระอุตสาหะที่จะอุปการะแก่สัตว์โลกเป็นนิตย์ ทรงอนุเคราะห์บุคคลทั้งหลายโดยไม่เลือก แม้ว่าจะเป็นสัตว์ผู้มีความเห็นผิด หรือบุคคลผู้มีความเห็นผิดเช่นพระเทวทัตซึ่งพระธรรมที่ทรงแสดง ทรงแสดงไว้โดยละเอียดจากการที่ได้บำเพ็ญบารมีแต่ละพระชาติจึงทรงสามารถที่จะรู้อัธยาศัยของสัตว์โลกโดยละเอียด
~ ผู้ที่ระลึกถึงพระผู้มีพระภาค บ่อยๆ ย่อมเสมือนกับพระผู้มีพระภาคประทับอยู่เฉพาะหน้า ไม่สามารถที่จะล่วงกายทุจริตได้ เพราะว่าระลึกถึงพระผู้มีพระภาคที่ได้ทรงแสดงธรรมให้เห็นว่า ธรรมใดเป็นอกุศลที่ควรเว้น ธรรมใดเป็นกุศลที่ควรเจริญ
~ เห็นคุณค่าอย่างยิ่งจากการที่ไม่รู้ เป็นรู้ได้ จากคำที่มาจากการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โอกาสของการฟังพระธรรมก็ไม่แน่ว่าจะนานเท่าไหร่ จะมากหรือจะน้อย แต่ทุกครั้งที่ได้ฟังประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ก็คือ ได้เข้าใจความจริง
~ สัจจะมีความสำคัญมาก เป็นเรื่องจริง ไม่ควรจะยาก หรือคำจริง คำสัตย์ ก็ไม่ควรจะยากที่จะกล่าว ความตรงไปตรงมา ความจริงใจ ไม่ควรที่จะยาก แต่อะไรทำให้หลายคนไม่จริงใจ ไม่ตรง อกุศลธรรม คือ โลภะ ความยึดมั่นในความเป็นตัวตนมีมาก ความใคร่ ความปรารถนาทุกสิ่งทุกประการเพื่อตัว สามารถที่จะหลอกได้แม้ตัวเอง ไม่ตรงต่อลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ
~ อกุศลธรรมทั้งหลายต้องละ ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อสภาพธรรมจริงๆ มิฉะนั้นแล้วไม่สามารถที่จะเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ เพราะยังมีอกุศลธรรมที่ทำให้คลาดเคลื่อนไป เป็นผู้ที่ไม่ตรงต่อสภาพธรรม
~ เมตตาเป็นกุศลซึ่งทำให้บุคคลที่อยู่ใกล้ชิด ได้รับความผาสุกทั้งกายและใจ เพราะว่าเป็นเหตุให้มีความเกื้อกูล อนุเคราะห์สงเคราะห์กัน ซึ่งโลกจะผาสุกอยู่ได้ก็ด้วยเมตตา ในวันหนึ่งๆ ลองคิดดู ที่ได้รับความสุขนี้ เป็นเพราะเมตตาซึ่งกันและกัน ใช่หรือมิใช่?
~ ธรรมที่ได้ยินได้ฟังนี้ก็เกื้อกูลเป็นปัจจัยให้กุศลธรรมทั้งหลายเจริญงอกงามขึ้น และขณะใดที่เกิดกุศล น้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทันที จะเกิดความสงบ เกิดความปีติ ในขณะที่ระลึกถึงพระคุณ
~ อธิษฐานบารมี คือ การตั้งใจมั่นในกุศล ถ้าไม่มีความมั่นคงจริงๆ ปัญญายังไม่คมกล้าก็ไม่สามารถที่จะสู้กับกิเลสอกุศลได้ และในวันหนึ่งๆ ลองสังเกตดูว่า อกุศลชนะบ่อยไหม หรือว่ากุศลชนะมากกว่า ถ้าเป็นผู้ที่กุศลชนะมากกว่า ก็แสดงถึงความตั้งใจมั่นในกุศล ที่จะไม่ยอมเปลี่ยนไปตามกิเลส
~ ในวันหนึ่งๆ ผู้ที่ยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท (ดับได้อย่างเด็ดขาด) ลองพิจารณาวาจาของตนว่า เป็นไปในทางที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อนบ้างไหม บางทีลืมคิดถึงคนฟัง หรืออาจจะคิดว่าเขาคงไม่เดือดร้อนใจ พูดอย่างนี้คงไม่เป็นไร แต่ถ้าท่านเป็นคนฟัง ท่านจะไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย เพราะว่าคำพูดบางคำแม้ว่าจะไม่ใช่คำหยาบคายที่เป็นผรุสวาจา ไม่ใช่คำที่รุนแรง แต่แม้กระนั้นก็เป็นคำที่อาจทำคนฟังเกิดความน้อยใจ หรือเสียใจ แม้เพียงเล็กน้อย ถ้าสติเกิดจะเห็นความเป็นวจีทุจริต แต่ถ้าสติไม่เกิด ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นอกุศล เพราะฉะนั้น สติที่เกิดขึ้นจะทำให้พิจารณาสภาพธรรมในขณะนั้น เห็นอกุศลเป็นอกุศล และเห็นกุศลเป็นกุศล
~ ทุกท่านที่นั่งอยู่ในขณะนี้ มีนิมิต (เครื่องหมาย) ที่จะบอกได้ไหมว่า ชีวิตของใครจะสิ้นสุดลงเมื่อไร เพราะฉะนั้น ก็เป็นของที่ไม่แน่นอนเลย
~ ถ้าคิดถึงความไม่แน่นอน จนกระทั่งสามารถระลึกถึงความตายให้สั้นเข้าๆ เช่นที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงกับพระภิกษุทั้งหลายว่า การระลึกถึงความตายชั่ววันหนึ่งคืนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ ก็ยังประมาท จนกระทั่งระลึกถึงในขณะที่มีชีวิตอยู่พอที่จะเคี้ยวอาหาร ๔ – ๕ คำแล้วกลืน นั่นก็ยังประมาท แต่ผู้ที่จะไม่ประมาท คือ ผู้ที่ระลึกถึงความตายชั่วขณะที่เคี้ยวข้าวคำหนึ่งแล้วกลืน หรือว่าหายใจเข้าแล้วออก หายใจออกแล้วเข้า แต่ไม่ใช่หมายความว่าให้ระลึกถึงความตายอย่างนั้นเท่านั้น อย่าลืมว่าสมถกัมมัฏฐานทั้งหมด ควรที่จะจบลงด้วยเห็นธรรมในธรรม
~ ถ้าจะสังเกตดูในวันหนึ่งๆ บางทีคิดเรื่องกุศล แต่อกุศลก็ทำให้เปลี่ยนใจได้ บางครั้งก็บ่อยๆ หรือเรื่อยๆ เคยมีไหมที่ตั้งใจว่าจะทำกุศล อาจจะเป็นการฟังธรรม หรือการเกื้อกูลสงเคราะห์อนุเคราะห์บุคคลอื่น แต่พอมีอกุศลเกิดขึ้นแทรกแซง ก็เปลี่ยนใจไปตามอกุศลนั้นอย่างรวดเร็ว ลืมเรื่องกุศลที่คิดไว้หรือว่าตั้งใจไว้แล้ว
~ ถ้ายังคงไม่รู้อยู่ จะออกจากความไม่รู้ได้ไหม ออกจากกิเลสทั้งหลายไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ต้องรู้ถึงต้นตอของสภาพธรรมที่เป็นอกุศล คืออะไร คือความไม่รู้
~ ขณะใดก็ตามที่สามารถสละวัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์แก่คนอื่น ขณะนั้นไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น จึงเป็นการกระทำอย่างนั้นได้ ค่อยๆ รู้ความจริงว่าธรรมมีตลอดเวลา แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจแต่ละคำ
~ คุณความดีทั้งหมด เพราะสติเกิดขึ้นเป็นไปในกุศลนั้นๆ ขณะนั้นจึงกระทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นกุศลได้ตามสภาพของสติที่เกิด เพราะฉะนั้น สติเกิดจะเป็นอกุศลไม่ได้ เพราะสติระลึกเป็นไปในทางกุศล
~ มีความเข้าใจธรรมขณะใด ขณะนั้นกายงาม วาจางามด้วย แต่ถ้าในขณะนั้นเป็นอกุศล กาย วาจาก็ไม่งาม การกระทำทางกายก็อาจจะกระทบกระเทือนคนอื่น วาจาก็ทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ เพราะฉะนั้น ขึ้นอยู่กับปัญญาความเข้าใจ ต้องเข้าใจด้วยว่า ปัญญาทำให้ทุกอย่างที่เป็นอกุศล ค่อยๆ ลดลง
~ กิเลสล้อมรอบ ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า อยู่กับกิเลสท่ามกลางกิเลสแล้วก็เพิ่มกิเลส ถ้าไม่มีคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่รู้จักตัวเองเลย
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๑๕


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี
ฟังธรรมะในดิถี ถูกต้อง
อาจารย์สุจินต์ศรี เป็นหลัก
จิตเจตสิกรูปสอดคล้อง มั่นแฟ้นคำจริง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ผู้ที่ระลึกถึงพระผู้มีพระภาค บ่อยๆ ย่อมเสมือนกับพระผู้มีพระภาคประทับอยู่เฉพาะหน้า ไม่สามารถที่จะล่วงกายทุจริตได้ เพราะว่าระลึกถึงพระผู้มีพระภาคที่ได้ทรงแสดงธรรมให้เห็นว่า ธรรมใดเป็นอกุศลที่ควรเว้น ธรรมใดเป็นกุศลที่ควรเจริญ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา