ผู้มีปัญญา เป็นผู้ที่อดทน [1]
โดย สารธรรม  12 เม.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 8158

ผู้ที่อดทนเนี่ยค่ะ เป็นผู้ที่มีปัญญา เพราะเหตุว่ารู้หนทางที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมที่สามารถจะดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉทจริงๆ ว่าหนทางนั้นจะต้องอบรมเจริญอย่างไรในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ในขณะอื่นนะคะ แต่ว่าขณะนี้เป็นชีวิตประจำวันจริงๆ



ความคิดเห็น 1    โดย สารธรรม  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ซึ่งลองพิจารณาวันนี้ก็ได้นะคะ ชีวิตประจำวันในวันนี้ เห็นหลายสิ่งหลายอย่างได้ิยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส แล้วเคยพิจารณาจิตของตนเองไหมคะว่า ขณะที่เห็นเนี่ยค่ะ รู้สึกยังไงบ้าง เช่น ถ้าเห็นคนที่ใส่แหวนสิบนิ้ว หรือว่าเห็นคนผมสั้น ผมยาว ใส่ต่างหูข้างละสามสี่อันเหล่านี้เป็นต้นนะคะ จิตในขณะที่เห็นนั้นหนะค่ะเป็นยังไง แล้วก็จะละกิเลสได้อย่างไรถ้าเกิดความเดือดร้อน วุ่นวายไม่พอใจกับผมเผ้า หรือว่าเสื้อผ้า หรือว่าเครื่องประดับของคนอื่น


ความคิดเห็น 2    โดย สารธรรม  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ในขณะนั้นหนะค่ะ ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ เห็นเหมือนกันนะคะ เห็นอย่างเดียวกันแต่จิตของท่านไม่วุ่นวาย ไม่เดือดร้อน ไม่รังเกียจกับสภาพที่ปรากฏทางตา มีความเมตตาที่จะสงเคราะห์เกื้อกูล ไม่ว่าจะเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา โดยฐานะอย่างไร โดยสภาพอย่างไร เสียงที่ได้ยินทางหู กลิ่นที่กระทบจมูก รสที่กระทบลิ้น ความคิดนึกต่างๆ ทางใจของท่านไม่เป็นอกุศล


ความคิดเห็น 3    โดย สารธรรม  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ในขณะที่ชีวิตประจำวันของทุกคนในโลกที่ยังเป็นปุถุชน พอเห็นแล้วอาจจะนึกติเตียน นึกรำคาญ หรือว่าบางท่านนะคะ จะใช้คำว่า นึกหมั่นไส้นะคะก็เป็นได้ ให้ทราบว่า แล้วอย่างไรความหมั่นไส้ ความรำคาญ ความรังเกียจนั้น จะดับหมด ไม่เกิดอีกเลย ถ้าไม่มีการรู้สึกตัวอย่างนี้นะคะ ก็ไม่มีทางที่จะค่อยๆ ละกิเลส เพราะเหตุว่า แม้ในขณะนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอกุศล


ความคิดเห็น 4    โดย สารธรรม  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ซึ่งถึงแม้ว่าไม่ใช่พระอรหันต์ก็ยังเป็นกุศลได้ ถ้ามีความเป็นมิตร อยู่เสมอในใจไม่ว่าบุคคลนั้นจะแต่งตัวด้วยเครื่องประดับแหวนสิบนิ้วหรืออะไรก็ตามแต่ นะคะ แต่ก็มีความเข้าใจ มีความเห็นใจ มีความรู้ว่า แต่ละคนสะสมความชอบ ความไม่ชอบต่างๆ กัน มีอัธยาศัยต่างๆ กัน พร้อมที่เป็นมิตร พร้อมที่จะช่วยเหลือ ในขณะนั้นจะไม่เดือดร้อนเลย แล้วลองคิดดูนะคะ ต่อไปจะเห็นอะไรอีกในเรื่องของชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล เรื่องของผมยาว ผมสั้น เรื่องเครื่องประดับต่างๆ แต่ว่าไม่เดือดร้อนได้นะคะแล้วก็มีความเป็นมิตรได้

อ่านตอนต่อไปคลิกที่นี่ ...8159


ความคิดเห็น 5    โดย wannee.s  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ร้อยคนก็ชอบร้อยอย่าง เพราะจิตสั่งสมมาต่างกัน ที่สำคัญรักษาจิตให้เป็นกุศล แม้ใน ขณะที่หลงลืมสติเป็นอกุศล สติเกิดระลึกรู้ว่าอกุศลเป็นนามธรรมชนิดหนึ่ง เป็นธรรมค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย aiatien  วันที่ 12 เม.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 7    โดย suwit02  วันที่ 12 เม.ย. 2551
สาธุ

ความคิดเห็น 8    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ขอนุโมทนาครับ ท่านอาจารย์ ท่านช่างละเอียด และ ตรงใจมากๆ ครับ


ความคิดเห็น 9    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 12 เม.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ถ้าอบรมความเข้าใจพระธรรมมากขึ้น ก็จะเข้าใจความจริงว่าทุกอย่างเป็นธรรม ก็จะมีความเข้าใจและเห็นใจ มีเมตตากันมากขึ้น แทนที่จะโกรธหรือไม่ชอบบุคคลนั้น เพราะผู้มีปัญญาย่อมอดทน ผู้ไม่มีปัญญาย่อมไม่อดทน เมื่อบุคคลอื่นนำความเสียหายเข้าไปให้ สัตว์โลกสะสมมาต่างๆ กัน และความจริงก็คือ สภาพธรรมนั่นเอง ขออนุโมทนาทุกท่านครับ

เชิญอ่านข้อความในพระไตรปิฎกเพิ่มเติมที่นี่ครับ

ผู้มีปัญญาย่อมอดทนในความผิดของผู้อื่น

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 10    โดย aitipil  วันที่ 13 เม.ย. 2551
ให้ใช้ปัญญาแก้ไขปัญหา อย่าใช้อารมณ์แก้ไขปัญหา

ความคิดเห็น 11    โดย ป้าจาย  วันที่ 13 เม.ย. 2551
ประทับใจที่ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า

อดทนต่อโลภะ ยากนัก

ความคิดเห็น 12    โดย prissna  วันที่ 13 เม.ย. 2551

จากข้อ ๕.. การรักษาจิตให้เป็นกุศลเสมอ สุขภาพ (กาย....ใจ) ต้องดีแน่ ถึงสุขภาพกายไม่ดี ก็พอทน

อนุโมทนา.


ความคิดเห็น 13    โดย สิริพรรณ  วันที่ 7 ส.ค. 2564

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ทุกคำที่เป็นปัญญาขัดเกลาอกุศลขณะที่เข้าใจจริงๆ ค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย chatchai.k  วันที่ 7 ส.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ