ใน อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต กุสินาราสูตร ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ไพสณฑ์ ชื่อว่าหลิหรณะ ใกล้พระนครกุสินารา พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ แล้วรับสั่งว่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เข้าไปอาศัยบ้านหรือนิคมแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่ คฤหบดี หรือบุตรของคฤหบดีเข้าไปหาแล้วนิมนต์ เพื่อฉันอาหารในวันรุ่งขึ้น ภิกษุรับนิมนต์ รุ่งเช้าก็ไปฉัน คฤหบดีก็ถวายอาหารที่มีรสประณีต ภิกษุก็คิดว่า ขอให้เขาถวายอาหารที่มีรสที่ประณีตอย่างนี้ต่อไป แล้วบริโภคอาหารเหล่านั้นด้วยความหมกมุ่นพัวพัน ไม่แลเห็นโทษ ไม่มีปัญญาคิดสละออก ขณะที่บริโภคบิณฑบาตนั้น ก็ตรึกเป็นกามวิตก คือพอใจในเรื่องต่างๆ หรือว่าพยาปาทวิตก มีความไม่พอใจ อาจจะเป็นในเรื่องรสอาหาร หรือว่าในเรื่องต่างๆ ในเรื่องที่เห็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจบ้าง แล้วก็อาจจะมีวิหิงสาวิตกบ้าง ในเพราะบิณฑบาต
เป็นไปได้ไหม กำลังรับประทานอาหาร ที่จะมีกามวิตก พยาปาทวิตก วิหิงสาวิตก ถ้าไม่คิดถึงท่านพระภิกษุที่กำลังฉันบิณฑบาต คิดถึงชีวิตของเราจริงๆ เป็นไปได้ไหมกำลังรับประทาน มีกิเลสไหม กิเลสยังมีเกิดแน่ทีเดียว ถ้าในขณะนั้นไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในภาวนา ขณะนั้นก็เป็นโลภะบ้าง เป็นโทสะบ้าง ถ้าอาหารอร่อยก็ชอบ บางทีสีก็สวย กลิ่นก็น่ารับประทาน โลภะก็เป็นไปทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง หรือถ้าตรงกันข้าม พยาปาท ความไม่พอใจก็ต้องเกิด อาหารนี้ไม่อร่อย รสไม่ดี จัดก็ไม่เป็น และสมมติว่ามีมาก วิหิงสาวิตก คิดไหมคะ คิดจะว่า ใครนะช่างทำไม่อร่อย หรือว่าทำไม่เป็น รสชาติก็ไม่กลมกล่อม ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 19
รับฟัง ... กุสินาราสูตร