สนทนาธรรมวันมาฆบูชา 1 มีนาคม 2561

ท่านอาจารย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะคะ ก็มีสิ่งที่สำคัญที่สุด ประโยชน์ที่สุด ทำให้เราได้น้อมระลึกถึงที่พระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระสาวกที่ถึงความเป็นพระอรหันต์

แต่ละท่านกว่าจะได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ ต้องมีการได้ฟังธรรมและมีความเข้าใจ เพราะฉะนั้นเรามาที่นี่นะคะ ไม่ทราบว่าเรานัดหมายกันหรือเปล่า หรือว่านัดกหมายกันบ้าง ไม่นัดหมายกันบ้างที่จะมาฟังธรรม

แต่ว่าไม่ใช่เพียงระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นแต่เป็นวันที่สมควรที่จะเข้าใจธรรมด้วย ไม่ใช่เพียงถึงวันสำคัญแล้วเราก็มาทำสักการะบูชา แต่ว่าไม่มีอะไรจะบูชาสูงสุดเท่าได้เข้าใจคำที่พระองค์ทรงตรัสรู้และได้ทรงแสดงไว้และก็เป็นประโยชน์กับเราที่จะเข้าใจได้


การเข้าใจธรรมเป็นการบูชาสูงสุดที่จะดำรงรักษาคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบต่อไปได้ เพราะเหตุว่าถ้าไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิดนะคะ เป็นการทำลายพระพุทธศาสนา


ด้วยเหตุนี้พระธรรมที่ได้ฟังแต่ละคำที่ได้ ต้องไตร่ตรองและต้องเข้าใจและต้องรู้ว่า แม้แต่คำที่พระองค์ตรัสว่า เว้นบาป ไม่ทำบาปทั้งปวง แค่นี้ค่ะ เพราะเหตุใดจึงเป็นคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องลึกซึ้งกว่าคำของคนอื่น

เพราะใครก็กล่าวได้นะคะ แต่จะพูดว่าอย่าทำบาป แต่ความจริงไม่มีใครสามารถที่จะห้ามให้สภาพธรรมเกิดได้เลย ไม่ว่าสภาพธรรมนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม


ด้วยเหตุนี้ ขณะนี้เว้น ไม่ทำบาป ในขณะที่เข้าใจธรรม เพราะฉะนั้นกุศลทั้งหมดเว้นจากบาป ด้วยเหตุนี้ขณะใดก็ตามไม่มีการทำบาป แต่ก็ยังต้องเว้น การที่จะไม่เข้าใจธรรม เพราะเหตุว่าขณะนั้นเป็นบาป ขณะที่ไม่เข้าใจธรรม คิดดูสิคะ ธรรมกำลังปรากฏแต่ว่าไม่เข้าใจ แต่จะเว้นบาปได้อย่างไรคะ



ต้องตามลำดับ แม้แต่กุศลที่เกิดจะน้อยมาก แต่ก็มีโอกาสที่เกิดได้เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่าทั้งวัน ปกติทั้งวันก็เป็นอกุศล แต่เว้นบาปเมื่อกุศลเกิด เพราะฉะนั้นขณะไหนที่กุศลไม่เกิด เว้นบาปหรือเปล่า ก็ไม่ได้เว้นบาป เพราะว่ากุศลไม่เกิด


ด้วยเหตุนี้ ประมาทอกุศลไม่ได้เลย สะสมมามาก ประพฤติเป็นไปตามการสะสมนะคะ จนกว่ากุศลจะเกิดแม้เพียงเล็กน้อย


ทำความดีให้ถึงพร้อมเนี่ยประมาทไม่ได้เลย แม้กุศลเล็กน้อยขณะนั้นเกิดแล้ว อกุศลไม่เกิด ด้วยเหตุนี้ผู้ที่เห็นประโยชน์ของกุศลธรรมนะคะ จึงไม่ประมาทแม้กุศลเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะทางกาย ทางวาจาและทางใจ

แต่ถ้าไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่รู้เลยค่ะว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ไม่มีตัวตน


แต่ขณะนี้กำลังมีสิ่งที่ปรากฏให้เข้าใจถูกต้อง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า ขณะนี้เป็นธรรมไม่ใช่เรา ถ้ามีความเข้าใจแบบนี้ก็ชำระจิตให้บริสุทธิ์


ซึ่งหนทางเดียวที่จะชำระจิตให้บริสุทธิ์ คือ เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ เ พราะเหตุว่าธรรมคือเดี๋ยวนี้เอง กำลังเห็นก็เป็นธรรม

ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ ชำระจิตหรือเปล่าคะ ก็เป็นเพียงเว้นบาป ขณะนั้นมีปัจจัยให้กุศลจิต และก็ไม่ประมาทที่จะทำกุศลไป

แต่ที่สำคัญที่สุด คือ มีความเข้าใจถูก โดยการที่ฟังพระธรรมแล้วก็เข้าใจและรู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขณะนี้เป็นธรรมที่พระองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว ตลอด 45 พรรษา

เมื่อใดที่ได้ฟังธรรม ไม่ใช่เพียงคิดว่าเว้นบาปแต่คำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เว้นบาป เพราะว่าเป็นธรรมทั้งหมด

ขอนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขอกราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ วิทยากรทุกท่าน

ขอกราบอนุโมทนาในกุศลทั้งปวงครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กราบบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ วิทยากร ผู้ร่วมสนทนาธรรม และผู้เผยแพร่พระธรรม เป็นอย่างยิ่ง
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ...ครับ
อนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และขออนุโมทนาทุกๆ ท่านค่ะ
กราบบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ