พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 71
ประวัติอุคคคฤบดีชาวเมืองเวสาลี
ใน สูตรที่ ๖ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
ด้วยบทว่า มนาปทายกาน ท่านแสดงว่า อุคคคฤหบดี ชาวกรุงเวสาลี เป็น เลิศกว่าพวกอุบาสกผู้ถวายโภชนะที่ชื่นชอบใจ. ดังได้สดับมา อุคคคฤหบดีนั้น ครั้นพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี กำลังฟังธรรมกถาของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสกผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกอุบาสกผู้ถวายโภชนะที่ชื่นชอบใจ ทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น. ท่านเวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดในสกุลเศรษฐี เมืองเวสาลี. เวลาท่านเกิดมีซึ่งไม่แน่นอน แต่ต่อมา ร่างกายของท่านสูงขึ้น สง่างาม เหมือนเสาระเนียดที่ตกแต่งแล้ว เหมือนแผ่นผ้าที่วิจิตรด้วยลวดลายที่เขายกขึ้น ทั้งคุณทั้งหลายของท่านก็ฟุ้งขจรไป ท่านจึงชื่อว่า อุคคเศรษฐี เพราะเรือนร่างและคุณทั้งสองนี้ฟุ้งขจรไป ก็ท่านอุคคคฤหบดีนี้นั้น ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล ด้วยการเฝ้าพระทศพลครั้งแรกเท่านั้น ต่อมา ก็กระทำให้แจ้งมรรคและผล ๓ เวลาที่ตัวแก่เฒ่า ท่านไปในที่ลับนั่งคิดว่า สิ่งใดๆ เป็นที่รักเป็นที่ชอบใจของเรา เราจักถวายสิ่งนั้นๆ นั่นแหละแด่พระทศพล เราได้ฟังคำนี้ในที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดาว่า บุคคลผู้ถวายของที่ชอบใจ ย่อมได้ของที่ชอบใจ ดังนี้ ครั้งนั้น ท่านดำริ อย่างนี้ว่า พระศาสดาทรงทราบจิตใจของเราบ้างหรือหนอ พึงเสด็จมายังประตูนิเวศน์ แม้พระศาสดาก็ทรงทราบจิตใจของท่าน มีภิกษุสงฆ์แวดล้อมเสด็จมาปรากฏ ณ ประตูนิเวศน์ทันที ท่านทราบว่าพระศาสดาเสด็จมาแล้ว ก็ขะมักเขม้นอย่างเหลือเกิน เดินไปสู่สำนักพระทศพล กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วรับบาตรของพระศาสดา อาราธนาให้เสด็จเข้าไปยังเรือนแล้วให้พระศาสดาประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์อันดีที่จัดไว้แล้ว ให้ภิกษุสงฆ์นั่งเหนืออาสนะที่เหลือ แล้วเลี้ยงดูภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยอาหารรสเลิศต่างๆ ครั้นเสร็จภัตกิจ นั่ง ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ฟังมาเฉพาะพระพักตร์ ชื่อว่ารับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า บุคคลผู้ถวายของที่ชอบใจ ย่อมได้ของที่ชอบใจ ดังนี้ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สิ่งใดๆ ที่ชอบใจของข้าพระองค์ สิ่งนั้นๆ ข้าพระองค์ถวายแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทำพระศาสดาให้ทรงทราบแล้ว นับตั้งแต่นั้นไป ก็ถวายสิ่งที่ชอบใจเขา แก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ก็เรื่องนั้นทั้งหมดจักมาในอุคคสูตร ปัญจกนิบาตแล เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนี้ ต่อมาภายหลังพระศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร จึงทรงสถาปนาอุบาสกผู้นั้นไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็น เลิศ กว่าพวกอุบาสก ผู้ถวายโภชนะที่ชื่นชอบใจ แล
จบอรรถกถาสูตรที่ ๖
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาครับ