อย่างนี้เรียกว่าตระหนี่หรือไม่
โดย sujittra  16 ก.ค. 2553
หัวข้อหมายเลข 16738

สุนัขป่วย พาไปรักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ค่ารักษาแพง จึงย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลซึ่งรักษาดีกว่าถูกกว่าเครื่องครบดีกว่า อย่างนี้เรียกว่า เป็นคนใช้เงินเป็น หรือเรียกว่า เป็นคนตระหนี่คะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 16 ก.ค. 2553

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ตระหนี่หรือไม่ตระหนี่นั้น สำคัญที่จิตเป็นสำคัญ และผู้นั้นย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง ความตระหนี่มีลักษณะคือ ความหวงแหน ความเหนียวแน่น อาการที่ไม่อยากให้สมบัติของตนเป็นของบุคคลอื่น การย้ายสุนัขไปโรงพยาบาลอื่น ด้วยความมีเหตุผลว่า โรงพยาบาลอื่นดีกว่าเหมาะสมกว่าทั้งการรักษาและราคา ย่อมไม่ใช่ความตระหนี่เพราะไม่ได้เป็นการหวงแหนทรัพย์ของตนแต่เป็นการพิจารณาประโยชน์ว่า สิ่งใดเหมาะสม มีสิ่งที่ดีกว่าแต่ราคาถูกกว่า เป็นประโยชน์กับสุนัข และเจ้าของด้วย แต่ในทางตรงกันข้ามหากจิตเกิดความหวงแหนทรัพย์ขึ้น หากจำเป็นต้องรักษาโรงพยาบาลนั้นจริงๆ แต่ไม่รักษา เพราะความหวงแหนทรัพย์ นั่นก็เป็นความตระหนี่เช่นกัน แม้จะอ้างเหตุผลใดก็ตาม จิตขณะนั้นเป็นสำคัญด้วยครับ

เพราะฉะนั้น การกระทำอย่างเดียวกัน จิตต่างกันก็ได้ ตระหนี่หรือไม่ตระหนี่ ขึ้นอยู่กับจิตในขณะนั้น เจตนาเป็นสำคัญ บุคคลนั้นรู้ด้วยตนเองครับ คำว่าใช้เงินเป็น กับตระหนี่ จึงเป็นสองคำที่มีเส้นกั้นบางๆ ที่แยกยากแต่สภาพธรรมตรงไปตรงมาตระหนี่เป็นตระหนี่ ใช้เงินเป็น ด้วยการพิจารณาก็คือใช้เงินเป็น ด้วยการพิจารณา การใช้เงินเป็นด้วยความตระหนี่ หรือใช้เงินเป็นเพราะพิจารณา ประโยชน์ก็ต่างกัน พิจารณาหรือตัดสินสิ่งใดต้องพิจารณา ตัดสินที่จิตขณะนั้นเป็นสำคัญครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 2    โดย พร้อมเสมอ  วันที่ 16 ก.ค. 2553

กราบอนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย ผิน  วันที่ 17 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 17 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย sujittra  วันที่ 17 ก.ค. 2553

ขอกราบขอบพระคุณที่ให้ความกระจ่าง และขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตของท่านค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย khampan.a  วันที่ 17 ก.ค. 2553

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย tookta  วันที่ 18 ก.ค. 2553

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 1 คนเราจะดีหรือจะไม่ดีให้ดูที่เจตนาเป็นหลัก ขอให้คิดดีทำดีพูดดี มีจิตใจที่สะอาด ไม่พูดจาทำร้ายใคร และให้เบียดเบียนผู้อื่นให้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสรรพสัตว์ทั้งหลาย

คนเรามี 3 ประเภท

ประเภทที่ 1 ผู้ดี (คือคนที่ทำอะไรต้องเนียบไปหมด แต่จิตใจชั่วร้ายก็มี)

ประเภทที่ 2 คนดี (คือคนที่ทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้ผู้อื่นเห็นว่าเราดีโดยไม่คำนึงว่าผู้อื่น จะเดือดร้อนแค่ไหน)

ประเภทที่ 3 คนนิสัยดี (คือคนที่มีอัธยาศรัยดี แต่คนอื่นๆ อาจจะมองว่า เขาไม่ใช่คนดี หรือเป็นผู้ดีแต่คนประเภทนี้ถือว่าดีแล้ว

แต่ถ้าจะให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ก็ควรที่จะนำความเป็นผู้ดี+ความเป็นคนดี+ความเป็นคนนิสัยดีมารวมกัน แต่ในสังคมทุกวันนี้ คงจะหาคนแบบนี้ยากมากเลยเพราะสังคมสมัยนี้มีแต่คนที่เห็นแก่ตัวเป็นส่วนใหญ่ และมีกิเลสมาก เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ประเสริฐ แล้วในการขัดเกลาจิตใจให้งดงาม


ความคิดเห็น 8    โดย เรียบร้อย  วันที่ 20 ก.ค. 2553

ขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นหลัก แต่หากทำไปแล้ว เกิดความเสียดายทรัพย์ในภายหลังย่อมถือว่าตระหนี่


ความคิดเห็น 9    โดย บัวขาว  วันที่ 8 ต.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย chatchai.k  วันที่ 8 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ