ขอสอบถามเรื่องการเป็นหนี้
โดย ninlawan  13 พ.ค. 2555
หัวข้อหมายเลข 21110

การยืมเงินแล้วไม่ใช้คืน จะเป็นบาปไหม



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 13 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

บาป คือ คือ การกระทำที่เป็นอกุศลกรรม มีการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ... มีความเห็นผิด เป็นต้น ซึ่งการไม่ใช้หนี้ เป็นได้ทั้งที่เป็นบาป ที่เป็น อทินนาทาน และ ไม่เป็นบาปคือ ไม่ล่วงศีล ข้อ อทินนาทานก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับเจตนา ของผู้ที่ยืมว่าเป็นอย่างไร อย่างเช่น ผู้ที่ยืม ยืมแล้ว และเมื่อมีเงินแล้ว ที่สามารถจะผ่อนชำระได้ แต่มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเจ้าหนี้ นั่นก็เท่ากับว่า นำทรัพย์ของผู้อื่นเป็นของๆ ตน ชื่อว่า มีเจตนาทุจริต เป็นบาปแล้ว เป็นอทินนาทาน เป็นบาป เป็นกรรมแล้วที่เรียกว่า อกุศลกรรม เพราะ เจตนา ชื่อว่า กรรม ครับ แต่ถ้า ไม่จ่ายเพราะ ไม่มี แต่ตั้งใจจะเก็บเงิน เพื่อที่จะจ่ายให้ในอนาคต ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายด้วยเจตนาทุจริตที่จะไม่จ่ายเจ้าหนี้ ครับ แต่เพราะไม่มี แต่ก็พยายามที่จะจ่ายในโอกาสหน้า แสดถึงเจตนาที่จะจ่าย ไม่ใช่เจตนาที่จะไม่จ่ายเลย จึงไม่ชื่อว่า เป็นบาป เป็นการล่วงศีลข้อ อทินนาทาน และไม่เป็นกรรมที่เป็นอกุศลกรรม เพราะ ไม่มีเจตนาทุจริต ครับ

ส่วนการเสียทรัพย์ ไม่ได้คืน ก็ไม่พ้นจากผลของอกุศลกรรมที่ทำมา มีการล่วงศีล ข้อที่ ๒ คือ อทินนาทาน ทำให้เศษของกรรม เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ทำให้ต้องเสียทรัพย์ ไม่ได้คืน ครับ นี่แสดงถึงว่า นี่เพราะ อกุศลรรมของตนเองที่ทำไว้ แทนที่จะไปโทษคนอื่นที่ไม่ใช้คืน หากไม่มีกรรมของตนเอง คือ บาปกรรมที่ตนเองทำไว้ เงินก็คงไม่หายและคงไม่มีการใช้คืนแน่นอนครับ เพราะฉะนั้น จะโทษใครได้ นอกจากกรรมของตนเอง ดังนั้น การพิจารณาถูกว่า เพราะ เคยทำไม่ดีไว้ในอดีต จึงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะความคิดถูก จึงช่วยคลายทุกข์ลงได้บ้าง เพราะขณะที่คิดถูก ขณะนั้นไม่ทุกข์ใจ และควรพิจารณาถึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจ และการทำให้ของหาย ไม่ได้คืน เพราะอะไร ก็เพราะ มีกิเลส มีสิ่งที่ไม่ดีเกิดในจิตใจ จึงมีการทำอกุศลกรรม คือ ล่วงศีล ข้อ ๒ จึงเป็นปัจจัยให้เสียทรัพย์ และ เพราะ มีกิเลส จึงทำให้ทุกข์ใจ ดังนั้น ทุกข์ทั้งหลายมีได้ เพราะอาศัยกิเลสที่มี

ดังนั้น หนี้ที่แท้จริง คือ ขณะที่ทำบาป อกุศลกรรม ชื่อว่าเป็นหนี้ อันก่อให้เกิดทุกข์ ทั้งการจองจำ ไว้ในสังสารวัฏฏ์และต้องประสบทุกข์มากมาย ดังนั้น มีหนี้ คือ การทำอกุศลกรรมได้ เพราะ มีกิเลส ครับ

หนทาการละหนี้ จริงๆ คือ การฟังพระธรรม ศึกษาธรรม เพราะทำให้เกิดปัญญา ความเข้าใจถูก คิดถูก ในเหตุการณ์ที่พบประสบเจอ ก็จะเบาด้วยกุศลธรรม และ ปัญญาที่เจริญขึ้น ย่อมละกิเลส อันเป็นต้นเหตุแห่งความเป็นหนี้ คือ กุศลกรรม และ ดับกิเลสหมดสิ้น ไม่มีหนี้อีก ถึงความเป็นพระอรหันต์ ครับ ดังนั้น ที่ดีที่สุด คือ เข้าใจ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ไม่พ้นจากรรมที่ตนเองทำ และเพราะมีต้นเหตุ คือ กิเลส ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

เดี๋ยวนี้จะส่งเสริมให้ทำบุญเพื่อชำระหนี้สงฆ์กันมากค่ะ ไม่ชำระจะตกนรกมั้ยคะ

คิดจะชำระหนี้บ้างหรือยัง

อิณสูตร ... วันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๕


ความคิดเห็น 2    โดย kinder  วันที่ 13 พ.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 13 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

แต่ละคนมีความประพฤติเป็นไปตามการสะสม การยืมเงินแล้วไม่ใช้คืน มีเจตนาที่ไม่ให้คืนเป็นอกุศลเจตนา เป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นการสะสมเหตุที่ไม่ดี เป็นเรื่องของผู้นั้นจริงๆ เป็นอกุศลกรรมของเขา สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็ย่อมมีความหวั่นไหว มีความเสียใจเป็นธรรมดา ที่เกิดความสูญเสียทรัพย์สิน ซึ่งจะต้องมีเหตุแน่นอน ถ้าไม่เคยกระทำอกุศลกรรมสร้างเหตุที่ไม่ดีไว้เลย ผลที่ไม่ดี ก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ และถ้าจะพิจารณาให้ละเอียดจริงๆ แล้ว ไม่มีใครทำให้เราเป็นทุกข์ใจ เศร้าโศกเสียใจได้เลยถ้าไม่ใช่เพราะกิเลสของเราเอง, เมื่อได้ศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เข้าใจในเหตุในผลของธรรม มีความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม ก็จะอุปการะเกื้อกูลให้เป็นผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศล สะสมความดีและอบรมเจริญปัญญาต่อไป ไม่โกรธแค้นอาฆาตในบุคคลผู้ที่ประพฤติไม่ดี แต่จะมีความสงสารเห็นใจที่เขาได้สร้างเหตุที่ไม่ดีให้ตัวเขาเองที่จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ไม่ดีในภายหน้า ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย wannee.s  วันที่ 14 พ.ค. 2555

ถ้าเป็นญาติกัน ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ ถ้าให้ญาติยืมเงินแล้ว ก็ไม่ควรทวงเงินคืน นอกจากเขาใช้คืนเอง และ การสงเคราะห์ญาติเป็นมงคลหนึ่งในมงคล ๓๘ แต่ถ้าคนนั้นเป็นเพื่อนเรา เราก็ให้ยืมแล้วเขาไม่ใช้คืน เราก็บอกยกหนี้ให้ เพื่อรักษาให้เขาไม่ต้องทำบาป และ ให้ยืมครั้ง สองครั้ง ก็เลิกให้ยืม ค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย เซจาน้อย  วันที่ 14 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแ่ด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การไม่ใช้หนี้ เป็นได้ทั้งที่เป็นบาป ที่เป็น อทินนาทาน

และ ไม่เป็นบาปคือ ไม่ล่วงศีล ข้อ อทินนาทานก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับเจตนา

เพราะฉะนั้นจะโทษใครได้ นอกจากกรรมของตนเอง

ไม่มีใครทำให้เราเป็นทุกข์ใจ เศร้าโศกเสียใจได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะกิเลสของเราเอง,

เมื่อได้ศึกษาพระธรรมสะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เข้าใจในเหตุในผลของธรรม มีความมั่นคงในเรื่องกรรมและผลของกรรม

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของอ.ผเดิม, อ.คำปั่นและทุกๆ ท่านครับ


ความคิดเห็น 6    โดย jaturong  วันที่ 16 พ.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย karnrawee  วันที่ 9 มิ.ย. 2565

ขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งหลายที่ให้ความกระจ่างค่ะ