ดูแลพ่อแม่ยามป่วย แต่ทำไปด้วยความรักและความสงสาร เป็นกุศลหรือไม่ครับ
โดย Witt  1 ส.ค. 2565
หัวข้อหมายเลข 43421

กราบเรียนถามอาจารย์ครับ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 1 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

[เล่มที่ ๑๔] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ ๘๘

[๑๙๙] ดูกร คฤหบดีบุตร มารดาบิดา เป็นทิศเบื้องหน้า อันบุตรธิดาพึงบำรุงด้วย สถาน ๕ คือ ด้วยตั้งใจว่า ท่านเลี้ยงเรามา เราจักเลี้ยงท่านตอบ ๑ จักรับทำกิจของท่าน ๑ จักดำรงวงศ์ตระกูล ๑ จักปฏิบัติตนให้เป็นผู้สมควรรับทรัพย์มรดก ๑ เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ๑.


[เล่มที่ ๕๙] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ -
หน้าที่ ๘๖๖ (ตักกลชาดก)
[๑๔๐๕] ท่านสวิฏฐกะ ผู้ใดเป็นคนมีธรรมอันลามก เบียดเบียนมารดาหรือบิดา ผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้นั้น ครั้นตายไปภายหน้า ย่อมเข้าถึง นรกโดยไม่ต้องสงสัย
[๑๔๐๖] ท่านสวิฏฐกะ ผู้ใดบำรุงเลี้ยงมารดาบิดา ด้วยข้าวน้ำ ผู้นั้น ครั้นตายไปภายหน้า ย่อมเข้าถึงสุคติโดยไม่ต้องสงสัย



[เล่มที่ ๖๐] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๖
หน้าที่ ๑๖๐ (ชนสันธชาดก)

[๑๖๕๖] ผู้ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดา ย่อมเดือดร้อน ในภายหลัง ว่า เราสามารถพอที่จะเลี้ยงดูมารดาและบิดาผู้แก่เฒ่าชราได้ ก็มิได้เลี้ยงดูท่าน



ธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ถ้ากล่าวถึงความเป็นธรรมแล้วก็กล่าวเป็นขณะๆ ไป ไม่ใช่กล่าวรวมๆ อย่างเวลาที่ดูแลพ่อแม่ นั้น ขณะที่มีความหวังดีต่อท่าน ปรารถนาที่จะให้ท่านมีความสุข หรือ เวลาที่ท่านมีความเดือดร้อน อย่างเช่นเจ็บป่วย ก็ช่วยเหลือให้ท่านพ้นจากทุกข์ความเดือดร้อนนั้น นี้คือ ขณะที่เป็นกุศล เป็นความดีงาม แต่ถ้าเกิดความติดข้อง ผูกพันด้วยโลภะ หรือ แม้แต่บางทีเห็นท่านเป็นทุกข์ เจ็บป่วย แล้วพลอยเดือดร้อนใจไปด้วย ก็ย่อมเป็นอกุศล นี้คือ ความเป็นจริงของธรรม ตรงตามความเป็นจริง
ธรรมเกิดดับสืบต่อกันอย่างรวดเร็ว แม้ในขณะที่ตั้งใจจะเจริญกุศล ทำสิ่งที่ดีงาม แต่อกุศล ก็เกิดแทรกได้เสมอ เพราะสะสมมามากและยาวนาน เมื่อได้เหตุได้ปัจจัยก็เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ แสดงความเป็นอนัตตาทุกขณะจริงๆ

ข้อที่ควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ การปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใดก็ตาม นั่น เป็นกิจที่ควรทำ และควรทำให้ดีที่สุดด้วย ครับ
ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ
พญาช้างยอดกตัญญู มาตุโปสกชาดก
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 2    โดย talaykwang  วันที่ 2 ส.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลยิ่งค่ะ ไม่จำเป็นว่า ต้องดูแลท่านตอนเจ็บป่วย แม้นไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นความกตัญญูกตเวที ดูแลให้ท่านให้สุขกายสุขใจได้ ด้วยการชวนท่านให้ได้เข้ามาศึกษาพระธรรม เป็นการตอบแทนพระคุณที่สูงที่สุด


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ยินดีในความดีของอ.คำปั่น และทุกๆ ท่านค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย เมตตา  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย เมตตา  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ข้อที่ควรจะได้พิจารณาเป็นอย่างยิ่ง คือ การปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อใดก็ตาม นั่น เป็นกิจที่ควรทำ และควรทำให้ดีที่สุดด้วยครับ

ขอบพระคุณและยินดีในความดีของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย Witt  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ _/|\_


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 2 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย puttara2424  วันที่ 3 พ.ย. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ