สภาพธรรมที่คล้ายกันมี ๒ อย่าง ฉันทะ ความพอใจที่จะทำกุศล ไม่ใช่โลภะ และโลภะ ความติดข้อง พอใจ ยึดมั่น ต่างกับลักษณะของฉันทะ
ฉันทเจตสิกเกิดร่วมกับโลภเจตสิกได้ แต่ฉันทะไม่ใช่โลภะ
เวลาที่เราชอบอย่างหนึ่งอย่างใด สิ่งหนึ่งสิ่งใด อย่างบางคนไปห้างสรรพสินค้าทีไร ก็ไปทางฝ่ายเครื่องเขียน ต้องการปากกา แต่กว่าจะได้สักด้ามหนึ่ง ดูแล้วดูอีก สีแล้วสีอีก อย่างนั้นอย่างนี้ นี่คือความติดข้องจริง แต่ก็มีฉันทะที่มีความต้องการในสิ่งที่พอใจนั้นด้วย เพราะฉะนั้น ลักษณะของฉันทะกับโลภะก็ต่างกัน
สภาพธรรมที่เป็นฝ่ายอกุศลจะเกิดร่วมกัน แต่สภาพธรรมที่เป็นกุศลจะเกิดร่วมกับอกุศลไม่ได้ ฉันทะเป็นกลาง เกิดกับกุศลก็ได้ อกุศลก็ได้ ใครชอบบูชาพระด้วยดอกไม้อะไร เป็นกุศล แต่มีฉันทะไหม ดอกบัว หรือดอกมะลิ หรือดอกกุหลาบ
โลภะเป็นความติดข้อง ลักษณะที่ติดข้อง เป็นลักษณะของโลภะ ลักษณะของฉันทะ คือ ความพอใจที่จะกระทำ กุศลก็ได้ อกุศลก็ได้
ขณะใดที่โลภะเกิด มีฉันทเจตสิกเกิดร่วมด้วย แต่ละครั้งที่โลภะเกิด โลภะจะแจกออกไปตามฉันทะ
กุศลเกิด ไม่ดับไม่ได้ สภาพธรรมเกิด แล้วก็ดับไป แล้วตราบใดที่ยังมีโลภะอยู่ ก็มีปัจจัยให้โลภะเกิดต่อได้ทันทีด้วย
ถ้ายังคงมีปัจจัยให้โลภะเกิด โลภะต้องเกิด ยังไม่ได้ดับปัจจัยที่ทำให้โลภะเกิด
แล้วอะไรจะชนะโลภะได้ ต้องเป็น ปัญญา
ปัญญาที่รู้ความจริง รู้ว่าไม่ใช่ตัวตน เป็นธรรมทั้งหมด พอใจก็เป็นธรรม ไม่พอใจก็เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นธรรม
ทุกครั้งที่มีโลภะ ต้องมีฉันทะเจตสิกเกิดร่วมด้วย
ต้องรู้ว่า จิตมีกี่ประเภท ที่เป็นอกุศล เป็นโลภมูลจิต โทสมูลจิต โมหมูลจิต ฉันทะเกิดร่วมกับโลภะได้ เกิดร่วมกับโทสะได้ และขณะที่โลภะ โทสะเกิด ก็มีโมหะเกิดร่วมด้วย แต่จิตที่ไม่มีโลภะเกิดร่วมด้วย ไม่มีโทสะเกิดร่วมด้วย มีแต่โมหะ ขณะนั้นจะไม่มีฉันทเจตสิกเกิดร่วมด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องละเอียด เป็นชีวิตประจำวัน ถ้าเราเข้าใจ ก็จะเห็นว่า ไม่ใช่เราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขณะไหน ... พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 280
รับฟัง ...
ฉันทะ-โลภะ (๑)
ฉันทะ-โลภะ (๒)