กิเลสมีกี่ชนิด
โดย gavajidham  27 ต.ค. 2549
หัวข้อหมายเลข 2312

กิเลสมีกี่ชนิด : โลภะ โทสะ โมหะ เป็นกิเลสประเภทใด : กิเลส ตัณหา อุปาทาน สามอย่างนี้ รวมกันเรียกว่าอะไร : ตัดกิเลสได้ ย่อมตัด ตัณหา อุปาทาน ได้ ทำไมหรือ : ในจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานในข้อแรกใช้ขึ้นต้นด้วย จิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ เพราะเหตุใดจึงไม่ใช้ว่าจิตมีโลภะก็รู้ว่าจิตมีโลภะ



ความคิดเห็น 1    โดย study  วันที่ 27 ต.ค. 2549

ธรรมที่เป็นกิเลส พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้มี ๑๐ ประเภท คือ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตตัปปะ

แต่อกุศลธรรม ทรงจำแนกเป็นหลายหมวด เช่น อาสวะ โอฆะ คันถะ อุปาทาน นิวรณ์ สังโยชน์ เป็นต้น

กิเลส ตัณหา อุปาทาน สามอย่างนี้เป็นอกุศลธรรม

เมื่อดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท เป็นอันว่าดับอกุศลธรรมประเภทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ในมหาสติปัฏฐานสูตร จิตตานุปัสสนา ที่ว่าจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ ราคะในที่นี้ คือ โลภะนั่นเอง เพราะโลภะมีชื่อหลายชื่อ เช่น กามราคะ ฉันทราคะ นันทิราคะ รูปราคะ ตัณหา เป็นต้น ใช้คำไหนก็ได้ตามความเหมาะสม แต่เป็นที่ทราบกันว่า หมายถึง โลภเจตสิก


ความคิดเห็น 2    โดย study  วันที่ 27 ต.ค. 2549

เชิญคลิกอ่าน ...

ธรรมเป็นกิเลส [ธรรมสังคณี]


ความคิดเห็น 3    โดย somjad  วันที่ 27 ต.ค. 2549

ตัณหาในนิโรธ [คือราคะที่สหรคตด้วยอุจเฉททิฏฐิ] ความหมายคืออย่างไรครับ

นิโรธ ตัวนี้ไม่ใช่นิโรธในอิรยสัจจ์ ๔ ใช่หรือเปล่าครับ


ความคิดเห็น 4    โดย study  วันที่ 27 ต.ค. 2549

ตัณหาในนิโรธ

ในที่นี้เป็นโลภะที่เกิดกับความเห็นผิด คือ เห็นว่าขาดสูญ ตายแล้วสูญ

นิโรธในที่นี้ หมายถึง ความดับ ความขาดสูญ ไม่ใช่นิโรธในอริยสัจจ์ ๔


ความคิดเห็น 5    โดย udomjit  วันที่ 29 มิ.ย. 2550

อนุโมทนาค่ะ

เนื่องจากอยากทราบความแตกต่างระหว่างกิเลสกับตัณหา เลยลองค้นจากคำชื่อเรื่องค่ะๆ ได้ความเข้าใจมากจากกิเลส ๑๐ ค่ะ คือ อยากทราบความหมายของคำต่างๆ เสมอ เนื่องจากคิดเอาว่าที่ทรงใช้คำต่างน่าจะมีเหตุผลค่ะ

ขอบคุณทั้งท่านที่ถามและขอบคุณท่านที่ตอบโดยกรุณาค้นให้อย่างดีเสมอ


ความคิดเห็น 6    โดย MUTITA  วันที่ 12 ต.ค. 2553

สาธุ


ความคิดเห็น 7    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 1 พ.ค. 2557

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย จิตและเจตสิก  วันที่ 21 ก.พ. 2558

สาธุ ขออนุโมทนาฯ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 4 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ