[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้า 201
ทุกนิบาต
วรรคที่ ๑
๖. ทุติยสีลสูตร
ว่าด้วยศีลและทิฏฐิดี
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 45]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้า 201
๖. ทุติยสีลสูตร
ว่าด้วยศีลและทิฏฐิดี
[๒๑๑] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับ มาแล้วว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการ อัน กรรมของตนนำมาไว้ในสวรรค์ เหมือนเชิญมาไว้ฉะนั้น ธรรม ๒ ประการ เป็นไฉน คือ ศีลดี ๑ ทิฏฐิดี ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วย ธรรม ๒ ประการนี้แล อันกรรมของตนนำมาไว้ในสวรรค์ เหมือนเชิญมาไว้ ฉะนั้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
นรชนใดผู้มีปัญญา ประกอบด้วย ธรรม ๒ ประการนี้ คือ ศีลดี ๑ ทิฏฐิดี ๑ นรชนนั้น เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงสวรรค์.
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า ได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล.
จบทุติยสีลสูตรที่ ๖
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้า 202
อรรถกถาทุติยสีลสูตร
ในทุติยสีลสูตรที่ ๖ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ภทฺทเกน สีเลน ได้แก่ ปาริสุทธิศีล ๔ มีกายสุจริตเป็นต้น. จริงอยู่ ปาริสุทธิศีล ๔ นั้น เป็นความงามในตัวเอง เพราะภาวะมีความไม่ด่างเป็นต้น และนำมาซึ่งคุณอันงามมีสมถะและวิปัสสนาเป็นต้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึง กล่าวว่า ภทฺทกํ (เจริญ). บทว่า ภทฺทิกาย ทิฏฐิยา ได้แก่กัมมัสสกตญาณ (ความรู้ว่า สัตว์มีกรรมเป็นของตน) และสัมมาทิฏฐิอันเป็นกรรมบถ.
ในบทนั้น บุคคลผู้ประกอบด้วยศีลอันเจริญ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปโยคะ ประกอบด้วยทิฏฐิอันเจริญ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอาสยะ บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วย ปโยคะและอาสยะ เป็นผู้เข้าถึงสวรรค์ ด้วยประการฉะนี้. สมดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลประกอบธรรม ๒ อย่าง เหล่านี้แล เป็นผู้อันกรรมของตนนำมาไว้ในสวรรค์ เหมือนเชิญมาไว้ฉะนั้น.
บทว่า สปฺปญฺโญ คือ มีปัญญา. บทที่เหลือพึงรู้ได้ง่ายทั้งนั้น.
จบอรรถกถาทุติยสีลสูตรที่ ๖