อุเบกขาเวทนาเกิดกับกุศลจิตก็ได้ เกิดกับอกุศลจิตก็ได้
โดย ธรรมทัศนะ  16 มิ.ย. 2549
หัวข้อหมายเลข 1348

อุเบกขาเวทนา เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง ไม่ใช่โทมนัสเวทนา (รู้สึกเศร้าใจ) ไม่ใช่โสมนัสเวทนา (รู้สึกสุขใจ) อุเบกขาเวทนาเกิดกับกุศลจิตก็ได้ เกิดกับอกุศลจิตก็ได้ เนื่องจากไม่ใช่โทมนัส ไม่ใช่โสมนัส จึงรู้ได้ยากมาก ถ้าปัญญาไม่เกิด จิตขณะนั้นเป็นอกุศล ก็คิดว่าเป็นกุศล ชีวิตประจำวันของเราคุ้นเคยกับอุเบกขา ซึ่งเกิดกับโลภะเป็นส่วนมากตั้งแต่เช้าตื่นมา อาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน ก็ทำไปด้วยโลภะที่เป็นอุเบกขาทั้งนั้น หรือถ้ารู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า ก็เป็นโลภะที่เกิดกับโสมนัส เห็นฝุ่นนิดหน่อยก็เป็นโทสะ เป็นโทมนัสอีก สิ่งเหล่านี้เป็นอกุศลธรรมที่เบาบาง จนเราเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เป็นปรกติ

พระผู้มีพระภาคทรงสอนให้เรารู้จักกับอกุศลธรรมในชีวิตประจำวันนี่เอง แต่ไม่ได้ทรงสอนให้หลีกหนีจากอกุศลธรรมต่างๆ เหล่านี้ เพราะจะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น ถ้าวิปัสสนาปัญญาไม่เกิด สติปัฏฐานไม่เกิด ไม่มีทางที่จะดับกิเลสได้ ทรงสอนให้เห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย เพราะอกุศลเล็กๆ น้อยๆ สามารถที่จะสะสมเป็นอกุศลที่ใหญ่ได้ ไฟที่หัวไม้ขีด สามารถเผาบ้านเผาเมืองไดฉันใด อกุศลที่สะสมมาเรื่อยๆ เมื่อได้เหตุปัจจัย ก็ย่อมกระทำอกุศลกรรมได้ วันนี้ตบยุง ฆ่ามด วันหน้าก็ฆ่าคนได้ ตราบใดที่ยังไม่บรรลุเป็นพระโสดาบัน ปุถุชนทั้งหลายยังมีเหตุปัจจัยให้กระทำอนันตริยกรรมได้ทุกท่าน



ความคิดเห็น 1    โดย hadezz  วันที่ 7 ก.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย pamali  วันที่ 4 ต.ค. 2553

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 22 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ