ไม่ใช่ถามคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่สามารถรู้ปัญญาของท่านผู้อื่นได้ แต่ต้องเป็นปัญญาของท่านผู้นั้นเอง ซึ่งเป็นผู้ตรงว่าไม่รู้อะไร และยังมีความคิดว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนทางไหนบ้าง ถ้าไม่เคยระลึกรู้ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเลย และบอกว่า เห็น ไม่เป็นสัตว์ ไม่เป็นบุคคล ได้ไหม ในเมื่อเหตุไม่มีเลย
รับฟัง ...
ไม่สามารถรู้ปัญญาของท่านผู้อื่น
มีท่านผู้ฟังเขียนความเห็นมา ๓ ข้อ และคำถาม ๔ ข้อ
คำถามข้อที่ ๒. มีอะไรอีกบ้างที่ผมควรได้รู้เพิ่มเติม
สุ. ทางตา สติเกิดบ้างหรือยัง ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ตามปกติ สติเกิดบ้างหรือยัง
การที่จะต้องรู้เพิ่มเติม ไม่ใช่ถามคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่สามารถรู้ปัญญาของท่านผู้อื่นได้ แต่ต้องเป็นปัญญาของท่านผู้นั้นเอง ซึ่งเป็นผู้ตรงว่าไม่รู้อะไร และยังมีความคิดว่า เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนทางไหนบ้าง
ถ้าไม่เคยระลึกรู้ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเลย และบอกว่า เห็น ไม่เป็นสัตว์ ไม่เป็นบุคคล ได้ไหม ในเมื่อเหตุไม่มีเลย จะกล่าวอ้างว่า ขณะนี้กำลังเห็น ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ก็ไม่ใช่ผู้ที่ตรงต่อตัวเอง ถ้าเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเองต้องรู้หนทางว่าอบรมเจริญอย่างไรจึงจะรู้ว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในขณะนี้ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
เพราะฉะนั้น ต้องเป็นตัวของท่านเอง ไม่ใช่ให้ผู้อื่นบอกว่า มีอะไรอีกบ้างที่ ท่านควรรู้เพิ่มเติม
เกือบจะเต็มแล้ว ใช่ไหม ต้องการเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย หรือว่ายังอีกมาก ต้องเป็นผู้ตรงจริงๆ [ตอนที่ 1610]

ถ้าไม่เคยระลึกรู้ถึงสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเลย และบอกว่า เห็น ไม่เป็นสัตว์ ไม่เป็นบุคคล ได้ไหม ในเมื่อเหตุไม่มีเลย จะกล่าวอ้างว่า ขณะนี้กำลังเห็น ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ก็ไม่ใช่ผู้ที่ตรงต่อตัวเอง ถ้าเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเองต้องรู้หนทางว่าอบรมเจริญอย่างไรจึงจะรู้ว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในขณะนี้ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา