ท่านมีปกติกล่าวอะไร - เรื่องขันติวาทีชาดก
โดย medulla  7 ม.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 6881

เรื่องขันติวาทีดาบส

 

พระโพธิสัตว์ เป็นพราหมณ์ชื่อ กุณฑะ ในกรุงพาราณสี บวชเป็นดาบสอยู่ป่าหิมวันต์ ภายหลังมาพักอยู่ในอุทยาน (เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ) วันหนึ่ง พระราชาทรงพระนามว่า กลาปุเสวยน้ำจัณฑ์มึนเมาเสียพระสติ ห้อมล้อมด้วยนักฟ้อนเสด็จไปสู่พระราชอุทยาน ทรงนิทราบนตักของหญิงผู้โปรดปรานคนหนึ่ง

 

พวกหญิงอื่นเที่ยวไปในพระราชอุทยานพบพระดาบส จึงพากันเข้าไปไหว้และฟังธรรม พระราชาทรงตื่นบรรทมทรงกริ้วที่เห็นหญิงทั้งหลายไปล้อมพระดาบส จึงตรัสถามพระดาบสว่า “สมณะ ท่านมีปกติกล่าวอะไร”

 

พระดาบสตอบว่า “มีปกติกล่าวขันติ มหาบพิตร”

 

พระราชาทรงได้โอกาส จึงรับสั่งให้ราชบุรุษทดสอบขันติ ทรงตรัสถามทุกครั้งที่ทดสอบแต่พระดาบสก็ยังยืนยันเช่นเดิม ส่วนพระราชาก็ถูกแผ่นดินสูบ ณ ประตูอุทยานนั่นเอง โดยมีการทดสอบตามลำดับ ดังนี้

 

ครั้งที่ ๑. โบย ๒ พันครั้ง ครั้งที่ ๒ ตัดมือและเท้า ครั้งที่ ๓ ตัดหูและจมูก ครั้งสุดท้าย กระทืบลงกลางอก แล้วเสด็จหลีกไป ก่อนสิ้นใจ พระดาบสได้กล่าวเป็นคาถาว่า “พระราชาพระองค์ใด รับสั่งให้ตัดมือ เท้า หู และจมูกของเราแล้ว ขอพระราชาพระองค์นั้น จงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ตลอดกาลนานเถิด เพราะคนเช่นเราหาโกรธไม่”



ความคิดเห็น 2    โดย วันชัย๒๕๐๔  วันที่ 7 ม.ค. 2551

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 3    โดย orawan.c  วันที่ 7 ม.ค. 2551

ทรงบำเพ็ญพระบารมีอย่างยิ่งยวดกว่าจะได้ทรงตรัสรู้อริยสัจธรรม แล้วสั่งสอนสัตว์โลกให้รู้ตามเพื่อออกจากวัฏฏะ พระคุณของท่านเกินกว่าคำพรรณา ควรอบรมเจริญปัญญายิ่งๆ ขึ้น


ความคิดเห็น 4    โดย pornpaon  วันที่ 7 ม.ค. 2551

ตอนได้ฟังเรื่องนี้ทางวิทยุครั้งแรก รู้สึกเลยว่าการบำเพ็ญขันติบารมีของพระพุทธองค์เมื่อยังทรงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น ใครๆ ก็คงไม่มีความอดทนและเมตตาได้ถึงเพียงนี้แม้จนสิ้นใจเลยทีเดียว ได้อ่านอีกก็ยิ่งคิดอีกว่า ตัวเองเป็นคนที่มีความอดทนน้อยยิ่งกว่าน้อยเหลือเกิน

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 9 ม.ค. 2551

เป็นเรื่องที่ชอบที่สุด

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 5 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย chatchai.k  วันที่ 29 พ.ค. 2564

ขอเชิญเปิดอ่าน...

ประกอบด้วยความอดทน [ขันติวาทิชาดก]

ขอเชิญรับฟัง...

ขันติวาทีดาบส