เหตุที่พระอรหันต์ยิ้ม
โดย nattawan  6 มิ.ย. 2568
หัวข้อหมายเลข 50109

. เหตุที่พระอรหันต์ยิ้ม อาศัยเหตุอะไร

สุ. น่าคิดใช่ไหม ธรรมดาผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ยิ้มด้วยโลภมูลจิตบ้าง มหากุศลจิตบ้าง แต่เวลาที่เป็นพระอรหันต์ จะหมดเหตุปัจจัยที่จะเกิดการยิ้มเลยหรือ จะไม่มีความรู้สึกโสมนัสใดๆ ทั้งสิ้นเลยหรือ หรือว่ายังมีเหตุที่จะให้เกิดโสมนัสเวทนา โสมนัสเวทนาก็เกิดตามเหตุตามปัจจัย เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ดับกิเลสหมดจริง แต่ไม่ได้ดับเหตุที่จะทำให้เกิดโสมนัสเวทนา

ถ้าพระอรหันต์เห็นสถานที่ที่เหมาะควรแก่สมณธรรม จะมีปัจจัยให้เกิดความพอใจในสถานที่นั้นถึงกับยิ้มได้ไหม หรือว่าทางหู เวลาที่อาจจะได้ยินเสียงดัง วุ่นวาย แสดงความโลภของผู้ที่ยังเป็นปุถุชนหรือผู้ที่ยังไม่หมดกิเลส อาจจะเป็นปัจจัยทำให้ พระอรหันต์เกิดโสมนัสเวทนาที่ท่านดับกิเลสได้หมดสิ้นแล้ว ไม่ต้องวุ่นวายอีกต่อไป

ไม่ทราบว่าท่านผู้ฟังเห็นความวุ่นวายของโลกหรือยัง แต่ถึงจะเห็นอย่างไร ก็ยังไม่เท่าที่พระอรหันต์ทั้งหลายท่านเห็น เพราะที่จริงแล้วความวุ่นวายมีอยู่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นปกติ เพียงแต่ไม่รู้สึกว่าขณะนั้นวุ่นวาย เรื่องของโลภะทั้งหมดวุ่นวายแน่นอน

ขณะใดที่สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เปรียบเทียบจึงจะรู้ว่า ขณะที่ไม่วุ่นวาย คือ ขณะที่กำลังศึกษารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ และสามารถที่จะรู้ว่าขณะนั้นเป็นเพียงรูปธรรมชนิดหนึ่งหรือว่านามธรรมประเภทหนึ่ง และก็ดับทันที เมื่อหมดไปแล้ว และไม่ใช่เพียงครั้งเดียว เมื่อสติระลึกต่อไป สภาพธรรมลักษณะหนึ่งปรากฏและดับอีก จึงเห็นว่าสูญทุกขณะ ไม่มีตัวตนที่เที่ยง ไม่มีสาระ เพราะว่าปรากฏแล้วก็หมดไป มีแล้วก็ไม่มี เมื่อสภาพธรรมปรากฏอย่างนี้ จึงรู้ว่า ในขณะนั้นเท่านั้นที่ไม่วุ่นวาย

แต่ขณะใดที่สติไม่ได้ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แม้วุ่นวายก็ยังไม่สามารถรู้สึกถึงสภาพที่วุ่นวายในขณะนั้นได้ แต่ถ้าสติระลึกรู้ลักษณะของ สภาพธรรมที่ปรากฏจึงจะรู้ได้ว่า ขณะที่ไม่วุ่นวายจริงๆ คือ ขณะที่สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นปกติในชีวิตประจำวัน

เพราะฉะนั้น เมื่อพระอรหันต์ยังมีเหตุที่จะทำให้เกิดโสมนัส มหากิริยาจิตก็เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนาเป็นญาณสัมปยุตต์ทำให้เกิดการยิ้มแย้มได้ หรือบางครั้งก็เป็นมหากิริยาญาณวิปปยุตต์ และบางครั้งก็เป็นหสิตุปปาท ซึ่งเป็นอเหตุกจิต

แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1090