การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นการกระทำตามกิเลสหรือไม่
โดย faeng  23 ก.ย. 2558
หัวข้อหมายเลข 27025

การเลือกรับประทานอาหาร. หรือการรับประทานอาหารเสริม ที่มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ คือการกระทำตามกิเลสหรือไม่



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 23 ก.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตประจำวัน ไม่พ้นจากกิเลส การติดข้อง แม้ไม่ใช่ขณะรับประทานอาหารก็เกิดกิเลส ติดข้อง แม้เพียงเห็นขณะนี้ก็เกิดโลภะโดยไม่รู้ตัว แต่กิเลสเกิดขึ้นก็ต้องเป็นผู้ตรง การเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ เพื่ออยากแข็งแรง สุขภาพดี ก็เป็นโลภะความติดข้อง แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป ขณะที่พระอรหันต์เลือกทานอาหารที่ไม่แสลงที่มีโทษขณะนั้นก็ไม่ใช่อกุศล แต่เป็นกิริยาจิตครับ อย่างไรก็ดีการรักษาสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ และ ควรพิจารณา การกระทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงให้ปลอดภัยจากโรค เป็นเรื่องธรรมดา เจ็บป่วย ก็รักษา หรือถ้ายังไม่เจ็บป่วยก็มีการกระทำในสิ่งที่เหมาะควรแก่ร่างกาย ก็เป็นชีวิตปกติจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่มีการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายเลย ปล่อยให้ตัวเองเจ็บป่วยหรือทำแต่สิ่งที่จะเป็นโทษต่อร่างกาย บางท่านรักษาสุขภาพ เพื่อพอกพูนความติดข้องต้องการให้มาก แต่สำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ ผู้ที่เห็นประโยชน์ของกุศลธรรมและการอบรมเจริญปัญญาแล้ว จะเห็นได้ว่า ถ้าชีวิต เป็นอยู่ต่อไป นานเท่าใด ก็ยิ่งจะเป็นโอกาสให้ได้เจริญกุศล ได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา มากเท่านั้น ครับ

การดำรงชีวิตอยู่ ก็ควรพิจารณาทั้งประโยชน์โลกนี้ คือ ดำรงชีวิตในปัจจุบันให้เป็นสุข ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพ ตามที่โอกาสควรจะเป็นเพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไปในการเจริญกุศล มีการออกกำลังกาย ล้างพิษตับ และ ดูแลเรื่องอาหาร และ ที่ไม่ลืม คือ ประโยชน์โลกหน้า คือ การเจริญกุศลประการต่างๆ และ เพื่อประโยชน์อย่างยิ่ง คือ การอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม เพื่อถึงการดับกิเลสได้ในที่สุด ชีวิตจึงควรประกอบด้วยประโยชน์ทั้ง 3 อย่าง คือ ประโยชน์โลกนี้ ประโยชน์โลกหน้า ประโยชน์อย่างยิ่ง


@รักษาตน ให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพื่ออะไร เพื่อการสะสมกิเลสมากๆ หรือ เพื่อที่จะให้เป็นไปเพื่อการสะสมความดี และอบรมเจริญปัญญา?

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๐๕

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ หน้าที่ 267

๖. ทุติยอนายุสสสูตร

ว่าด้วยธรรมเป็นเหตุให้อายุสั้น และอายุยืน

[๑๒๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นเหตุให้อายุสั้น ๕ ประการเป็นไฉน คือ บุคคลย่อมไม่กระทำความสบายแก่ตนเอง ๑ ไม่รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย ๑ บริโภคสิ่งที่ย่อยยาก ๑ เป็นคนทุศีล ๑ มีมิตรเลวทราม ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๕ ประการนี้แล เป็นเหตุให้อายุสั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลายธรรม ๕ ประการนี้ เป็นเหตุให้อายุยืน ๕ ประการเป็นไฉน คือบุคคลย่อมเป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเอง ๑ รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย ๑บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย ๑ เป็นผู้มีศีล ๑ มีมิตรดีงาม ๑

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

โลภะกับการดำรงชีวิต

บำรุงรักษาร่างกาย เพื่ออะไร?

ยารักษาใจ

ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 23 ก.ย. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตประจำวัน อกุศลมากอยู่แล้ว เป็นไปกับความติดข้องบ้าง ความไม่พอใจบ้าง เป็นต้น แม้แต่การเลือกบริโภคอาหาร ยากที่จะพ้นจากความติดข้อง ถ้ามีการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ปัญญาก็สามารถเข้าใจถูกตรงตามความเป็นจริงได้ว่าโลภะ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา และ ถ้าจะพิจารณาถึงประโยชน์จริงของการบริโภคอาหาร คืออะไรประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่เพื่อประดับตกแต่ง เพื่อความมัวเมาเป็นต้น แต่เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ เพื่อจะได้อบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป เพราะชีวิตยิ่งยั่งยืนนานเท่าใด ก็ยิ่งจะเป็นประโยชน์ในการที่จะได้สะสมความดี อบรมเจริญปัญญาเป็นที่พึ่งต่อไป ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย tanrat  วันที่ 24 ก.ย. 2558

ตัวตนนี้มาใหญ่ๆ เลย อะไรก็เพื่อตนนี้ ขอให้สุขสบาย แข็งแรง พอรู้ว่าทุกท่านเกิดแล้วต้องตาย ก็อยากเกิดบนสวรรค์แล้ว แค่ฟังเรื่องราวของธรรมะยังยากแบบนี้ ต้องอดทนฟังต่อไป กราบอนุโมทนาสาธุในกุศลจิตที่ให้ได้ฟังพระธรรมบ้าง


ความคิดเห็น 4    โดย JANYAPINPARD  วันที่ 24 ก.ย. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย thilda  วันที่ 25 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย j.jim  วันที่ 25 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย peem  วันที่ 26 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย ประสาน  วันที่ 27 ก.ย. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Jarunee.A  วันที่ 18 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ