
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ความเข้าใจธรรมะต้องเพิ่มขึ้น เพราะเพียงเท่านี้ไม่พอ และจะเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ถ้าไม่ฟังต่อไป ละเอียดต่อไป ไม่ประมาท ถ้าขาดการฟังเต็มไปด้วยอกุศล หมดหนทางที่จะแม้คิดถึงโทษของอกุศลในขณะที่รับประทานอาหาร และวันหนึ่งรับประทานอาหารกี่ครั้ง และอย่างอื่นอีกล่ะ!! แวดล้อมเต็มไปด้วยอกุศล ถ้าไม่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ศึกษาให้เข้าใจขึ้นๆ จะละได้อย่างไร? หนทางที่จะละกิเลส จะมีไหม?
อ.อรรณพ: ฟังเช้าวันนี้เป็นประโยชน์มหาศาลนะครับ ที่จะเห็นในความกว้างขวาง แล้วก็ความสำคัญอย่างยิ่งของ สาตถกสัมปชัญญะ ไม่ใช่แค่แปล
ท่านอาจารย์: เห็นไหม! ข้อ ๑ ที่ ๑ ขาดไม่ได้
อ.อรรณพ: ที่ว่า สาตถกสัมปชัญญะ นี่เป็นสิ่งที่เพราะสะสมมาในอดีตชาติเป็นบุหเพกตบปุญญตาจึงมีการเห็นประโยชน์ หรือว่าเกิดจากปัจจัยอะไรอีกครับ ที่จะเอื้อเกื้อกูลให้สาตถกสัมปชัญญะนี่เพิ่มขึ้นทั่วขึ้นค่อยๆ บริบูรณ์ขึ้น
ท่านอาจารย์: ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมะเพิ่ม สาตถกสัมปชัญญะจะเพิ่มละเอียดขึ้นได้ไหม?
อ.อรรณพ: ไม่ได้ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น อะไรเป็นปัจจัยสำคัญ?
อ.อรรณพ: ความเข้าใจความจริง
ท่านอาจารย์: จากไหน? เกิดขึ้นได้อย่างไร?
อ.อรรณพ: จากการอาศัยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น คำที่ทำให้เข้าใจความจริงเป็นสัปปายสัมปชัญญะ
อ.อรรณพ: กราบเท้าที่สุดเลยครับ นี่แหละ จึงมีสัมปชัญญะต่อไป เพราะฉะนั้น เราจะไปหาอะไรที่สัปปายะอย่างโน้นอย่างนี้ แต่จริงๆ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละคำ สัปปายะ เพราะว่าเหมาะสมควรเป็นประโยชน์
ท่านอาจารย์: ตั้งหน้าตั้งตาไปป่า ตั้งหน้าตั้งตานั่งตั้งนาน นั่นหรือ ... สัปปายะที่จะเข้าใจธรรมะ
อ.อรรณพ: ผมก็แช่มชื่นครับ ท่านอาจารย์ว่า เมื่อมีสัปปายสัมปัญญะ ก็คือเห็นประโยชน์ของการที่จะฟังคำของพระองค์ คำของพระองค์เป็นสัปปายสัมปชัญญะจริงๆ ที่จะให้รู้ทั่วพร้อมในความเหมาะควรต่างๆ แล้วก็อาศัยคำของพระองค์ และเมื่อมีการอาศัยคำของพระองค์ นี่เป็นสัปปายะแล้วก็เพิ่มสาตถกสัมปชัญญะให้ละเอียดขึ้นเพิ่มขึ้น
ที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า จนกว่าการเห็นประโยชน์จะเพิ่มขึ้น ขณะนี้เห็นประโยชน์บ้างที่จะละอกุศล เห็นประโยชน์ที่จะเห็นโทษของโลภะ แต่ก็ยังมีเหตุปัจจัยให้โลภะเกิดนั่นแหละ ก็ยังอร่อย เดี๋ยวมื้อกลางวันจะทานอะไรดีนะครับ ก็ยังมีนะครับ แม้จะมีสาตถกสัมปชัญญะเบื้องต้นบ้างที่เห็นโทษของความติดข้องที่มากมายนะครับ แต่ท่านอาจารย์กล่าวว่า แต่ก็ยังเป็นไปตามกำลังของอกุศลที่สะสมมาเป็นอุปนิสยปัจจัย จนกว่าการเห็นประโยชน์จะเพิ้มขึ้น ซึ่งก็ซาบซึ้งว่า การเห็นประโยชน์จะเพิ่มขึ้นก็ต้องอาศัยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นสัปปายสัมปชัญญะ
ท่านอาจารย์: ตอนนี้คุณอรรณพอยู่ที่ไหน?
อ.อรรณพ: อยู่ที่บ้านครับ
ท่านอาจารย์: เห็นไหม! อยู่บ้านก็เป็นสัปปายะเมื่อได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปเรียกหาที่ไหนหรือเปล่า?
อ.อรรณพ: ขณะนี้ครับที่ท่านอาจารย์กล่าวนี่แหละครับ เป็นสัปปายสัมปชัญญะ เพราะเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เดี๋ยวนี้ไหม อ.พีท? เพราะฉะนั้น สัปปายสัมปชัญญะ ก็เดี๋ยวนี้
อ.พีท: ใช่ครับ เดี๋ยวนี้ครับ
อ.อรรณพ: เดี๋ยวนี้ที่มีคำที่ท่านอาจารย์กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นสัปปายสัมปชัญญะแก่พวกเราทั้งหลายที่กำลังฟัง ใส่ใจ ในแต่ละคำนะครับ
ขอเชิญอ่านได้ที่ ..
อาศัยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ ด้วยความเคารพค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ