โกรธ ดีไหม? ไม่ดี แต่ยังไม่รู้ว่า ความโกรธ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา
โดย papon  10 ก.พ. 2557
หัวข้อหมายเลข 24450

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

"กรธ ดีไหม? ไม่ดี แต่ยังไม่รู้ว่า ความโกรธ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา" อาจารย์กรุณาให้ความกระจ่างและการพิจารณาในประโยคนี้ด้วยครับเพราะเวลาโกรธเกิด บางครั้งก็พอมีการระลึกได้บ้างแต่ส่วนใหญ่จะระลึกไม่ทันหรือว่ากระผมสะสมมาที่จะหงุดหงิดง่าย เพราะอนิฏฐารมณ์จากวิบากเกิดบ่อยมากเหลือเกินและมักจะมาคิดได้ทีหลังทุกครั้ง และการคิดได้ที่หลังด้วยวิตกจะทำให้เกิดการสะสมในชวนวิถีบ้างหรือไม่อย่างไรครับ

ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 10 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"กรธ ดีไหม? ไม่ดี แต่ยังไม่รู้ว่า ความโกรธ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา"

โกรธ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง คือ โทสเจตสิก ที่เป็นสภาพธรรมที่ขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ ซึ่งความโกรธสามารถเกิดได้เป็นธรรมดา สำหรับผู้ที่หนาด้วยกิเลส ที่ยังเป็นปุถุชน ซึ่งผู้ที่จะละความโกรธได้จนหมดสิ้น คือ พระอนาคามี ครับ

ซึ่งในความเป็นจริง โกรธ เป็นแต่เพียงธรรมที่เกิดขึ้น โดยมาก ของผู้ที่เผินในการศึกษาพระธรรม ย่อมที่จะละความโกรธ เพียงเพราะ รู้ว่าความโกรธไม่ดี ก็เป็นตัวเราที่จะละ เป็นตัวเราที่ไม่ดี เป็นตัวเราที่โกรธ เป็นตัวเราที่จะละความโกรธ ก็ไม่มีทางละความโกรธได้เลย เพราะฉะนั้น โกรธไม่ดี รู้แค่เข้าใจขั้นการฟัง ว่า โกรธไม่ดี แต่ ยังไม่ได้รู้จักตัวความโกรธจริงๆ ในลักษณะของความโกรธที่เกิดขึ้น จึงยังไม่รู้ว่าโกรธเป็นแต่เพียงธรรม ไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้น หนทางที่ถูกต้อง ในการละความโกรธ คือ เข้าใจความโกรธที่เกิดขึ้นว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ย่อมเป็นหนทางการละความโกรธได้ในที่สุด ครับ

บุคคลผู้ที่เป็นปุถุชน เป็นผู้ที่หนาแน่นไปด้วยกิเลส มีกิเลสที่ได้สะสมมาอย่างมากมาย เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย ก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นทันที เป็นอกุศลทันที อกุศลเป็นธรรม เกิดกับใครก็เป็นอกุศลไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ แต่เพราะไม่เข้าใจธรรมจึงมีการยึดถือว่าคนนี้ที่ทำไม่ดี สร้างความเสียหายให้แก่เรา หรือใครก็ตาม ตัวเราเองจึงเกิดอกุศลจิตเพราะการกระทำไม่ดีของผู้อื่น แท้ที่จริงแล้ว ตัวเราก็ไม่มี คนอื่นก็ไม่มี มีแต่ธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเท่านั้น แล้วจะโกรธอะไร? แต่ความโกรธ ความไม่พอใจก็เกิดขึ้นเป็นไป ตามความเป็นจริงแล้ว ควรอย่างยิ่งที่จะเห็นใจ สงสาร เข้าใจในอกุศลของบุคคลอื่น เพราะขณะนั้น เขากำลังสร้างเหตุที่ไม่ดีให้กับตัวเขาเอง ขณะที่โกรธ ขณะที่ไม่พอใจ ขณะที่ขุ่นเคืองใจ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดๆ ขณะนั้นเป็นการสะสมโทสะไว้ในจิตแล้ว เมื่อสะสมมากขึ้นๆ จนโทสะ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ มีกำลังมากขึ้น วันหนึ่งวันใดข้างหน้าอาจจะถึงกับประทุษร้าย เบียดเบียน ฆ่าผู้อื่นก็เป็นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จึงไม่ควรเห็นว่า ความโกรธเป็นเรื่องดี ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะยินดีในความโกรธ เพราะเหตุว่า การสอนให้โกรธ การสอนให้ทำร้ายสอนให้คิดร้ายต่อบุคคลอื่นนั้น ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังเป็นการคิดเรื่องราวในความโกรธ ไม่ใช่หนทางการละความโกรธ ตามที่กล่าวมา แต่การคิดถูกก็เป็นการสะสม สิ่งที่ดี ให้คิดดี แต่ไม่ควรลืมว่า หนทางการละความโกรธ คือ การเข้าใจความโกรธว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ครับ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ที่ทำให้ผู้ที่ศึกษา มีความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นไปเพื่อละอกุศล ละความไม่รู้ จนกระทั่งสูงสุดเพื่อความเป็นผู้ดับกิเลสได้หมด พ้นจากทุกข์ทั้งปวง ครับ.

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 10 ก.พ. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปกติในชีวิตประจำวัน แต่ละบุคคล มีอกุศลมากด้วยกันทั้งนั้น ทั้งความติดข้องยินดีพอใจ ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ เป็นต้น แต่ถ้าถึงกับที่จะต้องล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นนั้น ขณะนั้นแสดงให้เห็นถึงกำลังของกิเลสว่ามีมาก ผู้ที่มีปัญญาท่านจึงเห็นโทษแม้ในอกุศลเพียงเล็กน้อย

เป็นความจริงที่ว่า ความโกรธ เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ตราบใดที่ยังไม่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมดับกิเลสถึงความเป็นพระอนาคามีบุคคล ความโกรธ ก็ยังมี เมื่อมีเหตุที่จะทำให้ความโกรธเกิดขึ้น ความโกรธก็เกิดขึ้นเป็นปกติธรรมดา ถ้าเป็นผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมฟังพระธรรม จนกระทั่งมีความเข้าใจสภาพธรรม ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม มีความเข้าใจว่าเป็นธรรมจริงๆ แล้ว ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ก็จะลดน้อยลง ทุกอย่างเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปเท่านั้นจริงๆ จึงไม่ควรโกรธใครเลยทั้งสิ้น ไม่ควรเห็นว่าโกรธ เป็นเรื่องดี เพราะฉะนั้น จึงแสดงให้เห็นว่า การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง ทำให้ทุกคนมีที่พึ่ง นั่นก็คือ ปัญญา (ความเข้าใจถูก) ของแต่ละบุคคล นั่นเอง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 10 ก.พ. 2557

รู้ว่าโกรธไม่ดี แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรม เพราะยึดถือว่าเป็นตัวตนที่โกรธ ค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย pornchai.s  วันที่ 10 ก.พ. 2557

โทสะ โทษมาก คลายเร็ว_โลภะ โทษน้อย คลายช้า_ โมหะ โทษมาก คลายช้า


ความคิดเห็น 5    โดย papon  วันที่ 11 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย peem  วันที่ 11 ก.พ. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย danai2523  วันที่ 25 ส.ค. 2557

สาธุ


ความคิดเห็น 8    โดย peem  วันที่ 22 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 3 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ