ความเข้าใจมีไหมในคำที่พูด
โดย เมตตา  23 ต.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 51253

ข้อความในพระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี แสดงความเป็นจริงของความเป็นผู้ฉลาดในธาตุไว้ ดังนี้

ธาตุกุสลตา (ความเป็นผู้ฉลาดในธาตุ) เป็นไฉน ? ธาตุ ๑๘ คือ จักขุธาตุ (ตา) รูปธาตุ (สี) จักขุวิญญาณธาตุ (จิตเห็น ) โสตธาตุ (หู) สัททธาตุ (เสียง) โสตวิญญาณธาตุ (จิตได้ยิน) ฆานธาตุ (จมูก) คันธธาตุ (กลิ่น) ฆานวิญญาณธาตุ (จิตได้กลิ่น) ชิวหาธาตุ (ลิ้น) รสธาตุ (รส) ชิวหาวิญญาณธาตุ (จิตลิ้มรส) กายธาตุ (กาย) โผฏฐัพพธาตุ (ธาตุดิน ธาตุไฟ ธาตุลม) กายวิญญาณธาตุ (จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสทางกาย) มโนธาตุ (รู้อารมณ์ได้ ๕ อารมณ์ทางทวารทั้ง ๕ คือ รู้รูปทางตา รู้เสียงทางหู รู้กลิ่นทางจมูก รู้รสทางลิ้น และรู้โผฏฐัพพะทางกาย มโนธาตุมี ๓ ดวง คือ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ และสัมปฏิจฉันนจิต ๒ ดวง) ธัมมธาตุ (สุขุมรูปซึ่งเป็นรูปที่ละเอียด ๑๖ รูป, เจตสิกทั้งหมด และพระนิพพาน) มโนวิญญาณธาตุ (จิตที่เหลือทั้งหมด นอกจากจิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย และมโนธาตุ ๓), ปัญญา กิริยาที่รู้ชัด ... ความไม่หลง ความวิจัยธรรม สัมมาทิฏฐิ อันเป็นเหตุฉลาดในธาตุ แห่งธาตุทั้งหลายนั้นๆ อันใด นี้เรียกว่า ธาตุกุสลตา

ข้อความในอัฏฐสาลินี อรรถกถา พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี ได้แสดงความหมายของธาตุกุสลตาไว้ดังนี้

ปัญญาที่รู้ การรอบรู้ การเรียน การใส่ใจ การฟัง การทรงจำซึ่งธาตุ ๑๘ ชื่อว่า ธาตุกุสลตา ( ความเป็นผู้ฉลาดในธาตุ ) ”


อ.วิชัย: จากการสนทนาเมื่อวานนี้กับคุณหมอดริส ก็มีประเด็นที่จะเรียนสนทนากับท่านอาจารย์ครับ เป็นเรื่องของปัญญา ความเห็นที่ถูกต้อง ซึ่งจากคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงแสดง ปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริง ก็รู้โดยลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนขั้น ปริยัติ แล้วก็มีความรู้อีกระดับหนึ่งที่จะรู้ในลักษณะถึงเฉพาะที่เป็น ปฏิปัตติ แล้วก็เป็นการแทงตลอดตามความเป็นจริงเป็นการประจักษ์แจ้ง ซึ่งเป็นขั้น ปฏิเวธะ

แต่เมื่อวานก็จะมีประเด็นที่เรียนสนทนากับท่านอาจารย์ เรื่องของการศึกษาพระธรรม ที่จะเป็นเหตุให้มีความรู้ความเข้าใจธรรมะ ครับ อย่างการสนทนาอย่างเช่น ถามว่า ธรรมะคืออะไร? ก็ตอบได้ว่า เป็นสิ่งที่มีจริงๆ แต่ในการสนทนาที่ท่านอาจารย์ได้ให้ความเข้าใจ และก็คิดพิจารณา อย่างการตอบ หรือการสนทนาธรรมเป็นการตอบตามที่เรียน หรือเป็นการตอบตามความเป็นจริงครับ ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการเล่าเรียนที่จะรู้เรื่องราวของธรรมะ กับการที่รู้ว่าสิ่งที่เรียนนั้นเป็นความจริง มีความละเอียดอย่างไรค รับ

ท่านอาจารย์: ก็ต้องเป็นคนที่ตรงจริงๆ ทุกคำ ตั้งแต่ธรรมะคืออะไร ได้ยินคำว่า ธรรมะ ใครรู้บ้างว่าธรรมะคืออะไร รู้ตรงกันหรือเปล่า? รู้มากน้อยแค่ไหน? จริง ถูกต้องแค่ไหน?

เพราะฉะนั้น แต่ละคำเป็นคำที่เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว จึงทรงแสดงธรรมะ แต่ละคำเป็นสิ่งที่มีจริงแน่นอน และก็ยังเป็นความจริงของสิ่งที่มีจริงด้วย

เพราะฉะนั้น ความจริงมีไหม? เราสามารถที่จะไตร่ตรองได้หลายนัยยะ เช่น ความจริงมีไหม?

อ.วิชัย: มีครับ

ท่านอาจารย์: เดี๋ยวนี้มีไหม?

อ.วิชัย: เดี๋ยวนี้มีครับ

ท่านอาจารย์: เมื่อรู้ว่า ความจริงมี แล้วก็เดี๋ยวนี้ก็มี เพราะฉะนั้น ความจริงเดี๋ยวนี้คืออะไร? เห็นไหม ต้องชัดเจน ไม่ใช่มัวๆ ข้ามไปข้ามมาไม่รู้อะไรเป็นอะไร แต่ต้องชัดเจนทุกคำ

อ.วิชัย: อย่างการได้ยิน เป็นต้นครับ

ท่านอาจารย์: การได้ยิน จริงใช่ไหม? เพราะฉะนั้น ไม่ต้องพูดว่า เป็นธรรมะ ก็เป็นธรรมะใช่ไหม? เพราะมีจริง

อ.วิชัย: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: ด้วยเหตุนี้ แต่ละภาษาก็ใช้คำในภาษานั้นๆ เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีว่า มีจริงๆ เช่นได้ยินเมื่อกี้นี้ มีจริงแน่นอน

เพราะฉะนั้น อีกภาษาหนึ่งแทนที่จะบอกว่า ได้ยินมีจริง ก็ได้ยินเป็นธรรมะ สิ่งหนึ่งที่มีจริงๆ เพราะฉะนั้น คำนี้เมื่อเข้าใจแล้วในภาษาไหนของตน ก็ใช้คำนั้นได้ แต่ว่าหมายความตรงกัน คือกำลังพูดถึงสิ่งหนึ่งซึ่งมีจริงๆ เช่นได้ยิน

เพราะฉะนั้น ได้ยินจะไม่มีจริงๆ ไม่ได้ใช่ไหม?

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ได้ยินมีจริง แล้วได้ยินคืออะไร? ธรรมดาอย่างนี้ กำลังได้ยิน รู้ไหมว่า ได้ยินที่มีจริงๆ คืออะไร?

อ.วิชัย: อย่างได้ยินคืออะไร ถ้าตอบตรงๆ ครับ ก็เป็นธาตุที่รู้เสียง แต่ถ้าตอบตามที่เรียน ก็คืออย่างจิตได้ยิน หรือโสตวิญญาณ ก็เหมือนคิดถึงคำนั้น

ท่านอาจารย์: ธาตุ เคยพูดไหม วันนี้มีกี่ธาตุ ธาตุอะไรบ้าง? จะได้บอกว่า ได้ยินเป็นธาตุที่รู้เสียง

อ.วิชัย: ปกติก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องธาตุครับ

ท่านอาจารย์: แล้วคนที่ได้ยินเรื่องธาตุ ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คิดว่า ธาตุคืออะไร ถ้าจะตอบว่า คือธาตุ ธาตุคืออะไร?

เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าเราจะคิดเอง เข้าใจเอง ใช้คำเอง แต่ต้องรู้ว่า คำนี้เป็นคำของใคร ใครเป็นผู้ตรัส ตรัสจากอะไร ทำไมจึงต้องตรัสคำนั้น? ซึ่งดูเป็นธรรมดา ได้ยิน เป็นคำธรรมดาในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่ชีวิตประจำวันไม่รู้เลยทั้งสิ้นว่า ได้ยินคืออะไร?

นี่เป็นเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริงให้รู้ว่า สิ่งที่มีธรรมดาอย่างนี้ ความจริงที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมี แล้วได้ตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้เป็นธรรมดาว่า ความจริงของสิ่งนี้คืออะไร?

ต่างกันแล้วใช่ไหมที่จะพูดว่า ได้ยินเป็นธาตุโดยที่ว่า ทั้งวันเราก็ไม่ได้พูดเรื่องธาตุได้ยิน และก็ ได้ยิน เป็นสิ่งที่กำลังได้ยินเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจอะไรใน ได้ยิน เลยใช่ไหม ถ้าตอบว่าได้ยินเป็นจิต?

อ.วิชัย: อย่างการศึกษาพระธรรม ก็ย่อมมีความเข้าใจต่างกับบุคคลผู้ไม่รู้ครับ อย่างถ้าคนทั่วไปถามว่า ได้ยินมีไหม? เขาก็ตอบว่ามี แต่เขาไม่รู้ว่า ได้ยินคืออะไร แต่การที่มีโอกาสได้ฟังแล้ว มีความเข้าใจขึ้น ก็มีความเข้าใจว่า ได้ยิน ก็ต้องต่างกับเสียง ได้ยินก็เป็นธาตุที่รู้เสียง หมายถึงว่าความเข้าใจที่เกิดขึ้นดูเหมือนกับ ก็จริง เป็นความเข้าใจถูกที่ไม่เคยเข้าใจอย่างนี้ แต่เหมือนกับก็ทั้งคิดเรื่องด้วย ทั้งเหมือนกับปนๆ กับความเข้าใจด้วยอย่างนี้ครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องละเอียดต้องตรง เพราะฉะนั้น คุณวิชัยทบทวนทีละประโยคเรื่องเมื่อกี้นี้ ได้ยิน

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: ได้ยินคืออะไร?

อ.วิชัย: ได้ยินเป็นธาตุรู้ สภาพรู้ ครับ

ท่านอาจารย์: ใช้คำนี้ใช่ไหม?

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: ธาตุ คืออะไร? เห็นไหม พูดคำว่า ธาตุ ก็ต้องตอบความเข้าใจในธาตุ ไม่ใช่จำคำว่า ธาตุ ไม่ใช่คิดคำว่า ธาตุ แต่ถ้าตอบว่าเป็นธาตุ ก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในธาตุว่า ธาตุคืออะไร? ไม่เช่นนั้นก็เพียงแต่พูด แต่ความเข้าใจมีไหมในคำที่พูด ไม่ว่าคำไหนทั้งสิ้น และเข้าใจระดับไหน นี่คือความลึกซึ้งซึ่งใครก็ไม่เคยคิดเลย

ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟัง คำ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพที่พระองค์ตรัสรู้ สามารถที่จะรู้ความจริงทั้งหมด แต่คนที่ฟังยังไม่รู้อะไร ต่างกันมากไหม?

เพราะฉะนั้น เพียงตอบคำว่า เป็นธาตุรู้ ต้องมีความเข้าใจในความเป็นธาตุ ที่ตอบว่า เป็นธาตุ นี่คือความลึกซึ้ง

ขอเชิญอ่านได้ที่ ..

สังขตธาตุ และอสังขตธาตุ [อรรถกถา ทสุตตรสูตร]

[คำที่ ๕๙๙] ธาตุกุสลตา

ขอเชิญฟังได้ที่ ..

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ต้องตรงกัน

ไม่ใช่เพียงรู้ขั้นการศึกษา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ต.ค. 2568

ได้ยินคืออะไร

ไม่ใช่ว่าเราจะคิดเอง เข้าใจเอง ใช้คำเอง แต่ต้องรู้ว่า คำนี้เป็นคำของใคร ใครเป็นผู้ตรัส ตรัสจากอะไร ทำไมจึงต้องตรัสคำนั้น ซึ่งดูเป็นธรรมดา ได้ยิน เป็นคำธรรมดาในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ธรรมดาในชีวิตประจำวัน แต่ชีวิตประจำวันไม่รู้เลยทั้งสิ้นว่า ได้ยินคืออะไร

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ