ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏทางตา
โดย ใหญ่ราชบุรี  9 ก.ย. 2559
หัวข้อหมายเลข 28179

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สิ่งที่ปรากฏทางตา คืออะไร มีองค์ประกอบ มีลักษณะ มีกิจหน้าที่ มีอาการปรากฏ มีเหตุใกล้ให้เกิด รวมถึงประการ อื่นๆ ที่ท่านอาจารย์อธิบาย และที่ปรากฏในพระไตรปิฏก เพื่อความเข้าโดยละเอียดค่ะ

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 9 ก.ย. 2559

ขอเชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ครับ

สิ่งที่กำลังปรากฏทางตา แม้ไม่ต้องเรียกชื่ออะไรเลยทั้งสิ้น แต่ มีจริงๆ เป็นสิ่งเดียว ที่ปรากฏ ให้เห็นได้ ว่ามีลักษณะอย่างนี้แหละ เป็นอย่างนี้แหละ ไม่เป็นอย่างอื่น ไม่ใช่คน ไม่ใช่อะไรเลยทั้งสิ้นเหมือน มองเงาในกระจก มีใครในกระจกหรือเปล่า มีหรือเปล่า แต่เห็นทีไร “เป็นเรา” ทุกที ไม่ได้เข้าใจเลยสักนิด ว่า เป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ ฉันใด เดี๋ยวนี้ก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะ “เห็น” ที่ไหน โลกไหน วันไหนก็ตาม “สิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้” ที่จะละคลายความติดข้องละคลายการยึดถือว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ด้วย การเพิ่มความเข้าใจขึ้น ทีละเล็ก ทีละน้อย ไม่ลืมว่าขณะนี้ เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ถ้า รู้ว่า “ทุกอย่าง เกิดดับ อย่างเร็วมาก” จักขุปสาทะ ไม่เที่ยง ข้อความใน พระไตรปิฎก ทุกคนก็ผ่านสิ่งที่ปรากฏทางตา ซึ่งภาษาบาลี ใช้คำว่า รูปารัมมะณะ หรือ รูปารมณ์ หรือ จะใช้คำว่า วัณโณ ก็ได้ ก็ไม่เที่ยงได้ยินอย่างนี้ แต่ก็เหมือนเที่ยง ยังไม่เห็นปรากฏการดับไปเลยพร้อมกันนั้น การเกิดดับสืบต่ออย่างเร็วนะคะก็ปรากฏพร้อม “นิมิต” ที่ตั้งขึ้นว่า เป็นรูปร่างสัณฐานอย่างนี้ จำไว้เลยว่านี่เป็นอะไร

เพราะฉะนั้น กว่าจะไถ่ถอนการยึดถือ สภาพที่ ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด เป็นสิ่งที่ความจริงเพียงปรากฏว่ามีจริงๆ แล้วปรากฏให้เห็นได้ที่จะเข้าใจว่าเป็นธัมมะ ซึ่งไม่ใช่อัตตา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป็นอนัตตา

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย ปาริชาตะ  วันที่ 9 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 9 ก.ย. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องฟังพระธรรมต่อไป ไม่มีหนทางอื่น ในเมื่อธรรมะความจริงก็คืออย่างนี้ สิ่งที่ปรากฏทางตาจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ก็ต้องเป็นรูปชนิดหนึ่งสามารถปรากฏเมื่อกระทบกับจักขุปสาท (ตา) โดยมีกรรมเป็นปัจจัยทำให้มีการเห็นเกิดขึ้น สิ่งที่ควรรู้ ก็รู้อย่างนี้ และกำลังปรากฏอย่างนี้ แต่เพราะความไม่รู้ที่สะสมมามีมากก็ต้องฟังจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่าสภาพที่ปรากฏก็เป็นแต่เพียงสิ่งที่มีจริง เป็นธรรมะ ไม่ใช่ใครอื่นใดเลย เป็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เท่านั้นเห็นก็เป็นธรรมที่มีจริงอย่างหนึ่ง คือ เป็นจิตประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นทำกิจเพียงเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์บุคคลที่เห็น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 9 ก.ย. 2559

แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๒๕

ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1444


ความคิดเห็น 5    โดย ใหญ่ราชบุรี  วันที่ 9 ก.ย. 2559

แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๒๐

ชุด แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1167


ความคิดเห็น 6    โดย tee  วันที่ 10 ก.ย. 2559

ได้เปิดอ่านก็ยิ่งเข้าใจครับ เหมือนกำลังจับด้ามมีดบ่อยๆ ขอบคุณจากใจจริงครับ


ความคิดเห็น 8    โดย rrebs10576  วันที่ 10 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย apiwit  วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย kukeart  วันที่ 11 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 11    โดย peem  วันที่ 12 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย s_sophon  วันที่ 14 ก.ย. 2559

ได้ฟังคำสอนของอาจารย์สุจินต์ ตาม Link ที่คุณใหญ่ราชบุรี ให้ไว้ เป็นการสะสมความรู้ ความเข้าใจให้ถูกต้องขึ้น ขอขอบคุณและอนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่าน


ความคิดเห็น 13    โดย thilda  วันที่ 14 ก.ย. 2559

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 14    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 17 ก.ย. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 15    โดย chatchai.k  วันที่ 22 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 16    โดย daranee789  วันที่ 10 ก.ค. 2566

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ