ถ้าเราไม่ให้เงินพระเเล้วเวลาที่มีคนเสียชีวิตหรือเเม้กระทั่งตัวเราเองจะทำอย่างไรดีคะ
โดย เปรมวานิช  2 ต.ค. 2561
หัวข้อหมายเลข 30137

กราบสวัสดีท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และท่าอาจารย์ทุกท่านนะคะ คือดิฉันมีข้อสงสัยอยากเรียนถามเพื่อจะได้นำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับสภาพธรรมะที่มีจริงน่ะค่ะคือดิฉันได้มีโอกาสไปงานบ้านเพื่อนเขาทำบุญขึ้นบ้านใหม่ อยุ่ๆ ก็มีพระสงฆ์ที่นิมนต์มาสวดรูปหนึ่งมาบอกกับเพื่อนดิฉันว่า โยมๆ ซองเงินสำหรับพระไม่ครบขาด 1 ซอง เพื่อนดิฉันเขาก็กระตือรือร้นนำซองมาให้พระรูปนั้นแล้วก็ขอโทษพระ ดิฉันบอกว่าพระภิกษุในพระธรรมวินัยไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง เพื่อนดิฉันเขาไม่ได้เชื่อแถมเขายังย้อนว่าถ้าไม่ให้เงินพระ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปสร้างโบสถ์ บูรณะวัด รวมถึงเมรุเผาศพด้วยคะ เขาถามว่าถ้าไม่มีเมรุจะเผาศพทีไหนและถ้าไม่ให้เงินพระ ก็ไม่มีพระที่ไหนมาสวดศพไห้หรอกนะ เลยข้องใจว่าวิธีที่ถูกต้องควรทำอย่างไรคะ แล้วเวลาที่เราตายหรือญาติเราตายเราจะเอาไปวัดแล้วถ้าไม่ให้เงินพระเขาจะมาสวดไหมคะ กราบอนุโมทนาด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 2 ต.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การจัดฌาปนกิจ ไม่มีการทำในวัด อาราม ที่เป็นสถานที่สงบ ที่มายินดี ของผู้สงบ สมัยพุทธกาลไม่มีทำกัน เพราะ มีการกระทำที่ไม่ตรงตามพระธรรม ปัจจุบัน และ ต่อไป ก็มีการจัดงานศพในวัด ไม่เป็นที่มายินดี ในความสงบ ไม่ใช่วัดในพระพุทธศาสนา คฤหัสถ์ โดยมากถวายเงินพระภิกษุ และ พระภิกษุก็ยินดีในเงินและทอง อันเป็นประเพณีที่ผิด

การแสดงธรรม แสดงโดยไม่ต้องมีการจัดงานศพในวัดก็ได้ ในสมัยพุทธกาล เวลาเย็น ชาวบ้านก็มาฟังธรรม โดยไม่มีการเอางานศพเข้ามาเกี่ยวข้อง และ ปัจจุบันก็มีสถานที่ ฌาปนกิจ โดยไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับวัด ครับ

ฌาปนสถาน ก็คือ ที่เผาศพ ในสมัยก่อนก็ใช้เชิงตะกอน นำฟืนมากองรวมกัน แล้วเอาศพวางไว้ข้างบน แล้วก็ทำการเผา สมัยนี้บางพื้นที่ก็ยังมีการกระทำอย่างนั้นบ้าง (สมัยนี้จะเป็น เมรุ เสียเป็นส่วนใหญ่) สถานที่เผาศพไม่ควรอยู่ในวัด จะเห็นได้ว่าในพระวิหารเชตวัน พระวิหารเวฬุวัน ไม่มีที่เผาศพ ก็มีสถานที่ที่เหมาะควรในการเผา แม้ในชาดก อย่างเช่นใน อุรคชาดก ที่พระโพธิสัตว์เผาลูกชายที่ถูกงูกัด ก็เผาในที่นาตรงนั้นเลย, การเผาศพควรจะเป็นกิจของคฤหัสถ์ ไม่ใช่กิจของพระภิกษุเพราะเป็นไปกับความไม่สงบ และ ยังมีส่วนที่เกี่ยวกับเงินทองด้วย เป็นเหตุให้ต้องอาบัติ หลายอย่าง และที่น่าพิจารณา คือ การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่ใช่การสวดพระอภิธรรม เพราะไม่ได้เป็นไปกับความเข้าใจอะไรเลย ฟังไม่รู้เรื่อง ดังนั้น การทำบุญอุทิศให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ด้วยความดีทั้งหลาย ทั้งในเรื่องของการให้ทาน หรือแม้กระทั่งการฟังพระธรรม ก็สามารถอุทิศส่วนกุศล ได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของผู้ที่เข้าใจธรรม ที่จะตั้งต้นทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ไม่มีการสวดพระอภิธรรม ก็ทำความดีอย่างอื่น อุทิศส่วนกุศล ได้ ครับ

ความเห็นจากสมาชิกชมรมบ้านธัมมะ ที่เป้นสถานที่ทำฌาปนกิจ ได้ ไม่เกี่ยวกับวัด ครับ

ฌาปนสถาน กองทัพเรือ ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. ๐๒๔๗๕๖๑๖๒ ๐๒๔๗๕๓๒๑๙ ๐๒๔๖๕๑๐๑๓
ได้สนทนากับหัวหน้าฌาปนสถานกองทัพเรือ นาวาโท มานะ สกุลพิทักษ์ เล่าความประสงค์ในการจัดงานศพของตัวเอง (ในอนาคต) ตามที่กล่าวข้างต้น ได้รับความเข้าใจเป็นอย่างดี พร้อมให้เบอร์โทรส่วนตัว ๐๘๙๘๙๓๖๙๑๒ เมื่อมีข้อสอบถามอะไรเพิ่มเติมค่ะ (ดิฉันถามเผื่อเพื่อนๆ ด้วยค่ะ) และได้สนทนากับเจ้าหน้าที่ พันจ่าเอกสมัย เกี่ยบกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น (มีรายการดังแนบท้ายต่อไปค่ะ)

ดิฉันจึงตั้งใจกราบเรียนรายงาน ส่งการบ้านที่เกิดจากการฟังพระธรรมวินัย ส่งท่านอาจารย์ค่ะ
กราบท่านอาจารย์
หนู จุ๋มจิ๋ม
(ฉัฏพร เอกชัยธวัช)
สมาชิกรมชมบ้านธัมมะ มศพ.
เลขที่ ๒๙๘๒
วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๙


ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการทำฌาปนกิจ มีดังนี้

ค่าเตาเผา ๓,๕๐๐ บาท

ค่าศาลาที่พักศพเตรียมเผา ๒,๐๐๐ บาท

ค่าแรงเจ้าหน้าที่ ๑,๐๐๐ บาท

ค่าแปรธาตุเก็บกระดูก ๒๐๐ บาท

ค่าหม้อใส่เก็บกระดูก ๔๕๐ บาท

ค่าบำรุงสถานที่ ๓๐๐ บาท
รวมเป็นเงิน ๗,๔๕๐ บาท

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย kiss_99  วันที่ 2 ต.ค. 2561

เป็นหัวข้อที่ควรศึกษาอย่างละเอียด


ความคิดเห็น 3    โดย peem  วันที่ 2 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย khampan.a  วันที่ 2 ต.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ชีวิตของบุคคลผู้ที่มาในโลกนี้ ล้วนมีความตายเป็นที่สุดด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อจุติจิตเกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ในภพนี้ เกิดเป็นบุคคลในภพใหม่ชาติใหม่ต่อไปตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ไปเกิดในภพใหม่ ตามกรรมของตนเอง ไม่สามารถกลับมาเป็นบุคคลนี้ได้อีก ผู้ที่เป็นญาติหรือบุคคลรอบข้างก็นำศพอันปราศจากจิต ไปเผา หรือทำฌาปนกิจ (ทำกิจคือการเผา) ซึ่งควรเป็นกิจหน้าที่ของคฤหัสถ์ที่จะทำกิจนี้ ผู้ที่เข้าใจความจริง มั่นคงในเหตุผล ก็กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ทำตามๆ กันในสิ่งที่ผิดที่ไม่ได้ทำให้ปัญญาและกุศลธรรมเจริญขึ้น และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ละจากโลกนี้ไปแล้วคือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ การนิมนต์พระภิกษุเพื่อถวายภัตตาหาร ก็สามารถที่จะกระทำได้ แต่ต้องไม่ถวายในสิ่งที่ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิต เช่น เงิน เป็นต้น และ ถ้าเป็นภิกษุในธรรมวินัย จริงๆ ไม่มีทางที่จะมาทวงเงินจากคฤหัสถ์ หรือขอเงินคฤหัสถ์เลย เพราะภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับเงินทองโดยประการทั้งปวง แต่ที่มีพฤติกรรมที่ผิด ไม่ได้ขัดเกลากิเลส ไม่ได้น้อมประพฤติตามสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ นั้น ก็ไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัย ไม่ใช่ผู้เคารพนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 5    โดย เปรมวานิช  วันที่ 3 ต.ค. 2561

แล้วทีไม่ต้องมีพระสวดแล้ววิญญานจะไม่ได้ไปสู่ภพภุมิที่ดี อันนี้เป้นความเชื่อที่ผิดใช่ไหมคะ


ความคิดเห็น 6    โดย เปรมวานิช  วันที่ 3 ต.ค. 2561

มีอีกเรื่องที่อยากขอความกรุณาค่ะ คือเมื่อก่อนสวดมนต์ทุกว้นเลยแต่ตั้งแต่ได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์ก้อไม่ได้สวดอีกเลยค่ะ แล้วก้อยังมีรูปปั้นเทวรุปฮินดูเคยไว้กราบไหว้บนหิ้งพระด้วยแล้วทีนี้หนุจะทำอย่างไรกับเทวรูปเหล่านี้ดีคะ


ความคิดเห็น 7    โดย paderm  วันที่ 4 ต.ค. 2561

เรียน ความเห็นที่ 5 และ 6 ครับ

ความเชื่อว่าพระสวดแล้วจะทำให้วิญญาณไปภพภูมิที่ดีเป็นความเชื่อที่ผิดครับ และ สามารถเอาเทวรูปไปไว้ที่อื่นได้ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 8    โดย ประสาน  วันที่ 5 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย ประสาน  วันที่ 5 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย เปรมวานิช  วันที่ 19 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณ อาจาย์คำปั่น และอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยให้ได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นนะคะ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย เปรมวานิช  วันที่ 19 ต.ค. 2561

ขอบพระคุณค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 17 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 13    โดย mon-pat  วันที่ 22 ก.พ. 2566

ขออนุโมทนาครับ ​