
[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 65 - 67
ปฐมปัณณาสก์
อุรุเรลวรรคที่ ๓
๓. โลกสูตร
ว่าด้วยตถาคตรู้โลกและอารมณ์ ๖
[๒๓] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โลก ตถาคตรู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว ตถาคตจึงออกจากโลกได้ โลกสมุทัย ตถาคตก็รู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว ตถาคตจึงละโลกสมุทัยได้ โลกนิโรธ ตถาคตก็รู้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้ว โลกนิโรธตถาคตจึงทำให้แจ้งแล้ว โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ตถาคตก็รู้ประจักษ์ ด้วยตนเองแล้ว โลกนิโรธคามินีปฏิปทา ตถาคตจึงทำให้มีแล้ว
อ.วิชัย: ได้ฟังการสนทนาเมื่อครู่นี้ก็ได้รับประโยชน์ที่จะให้เห็นความสำคัญของการศึกษาธรรม แต่ว่าไม่ใช่เป็นการศึกษาเพียงชื่อ หรือว่าเรื่องราวของธรรมเท่านั้น แต่ว่าก็ต้อง มีความเข้าใจถูกต้องว่า คำแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว กล่าวถึงความเป็นจริงของสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ว่าอย่างไร นะครับ นี่ก็ประเด็นหนึ่ง แล้วอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านอาจารย์กล่าวเมื่อสักครู่นี้นะครับ ก็คือ อารมณ์ที่ปรากฏเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ครับ
ในประเด็นนี้ก็น่าสนใจครับท่านอาจารย์ เพราะว่า ความหมายของตถาคต นี่ ก็จะมีอยู่หลายประการ ประการหนึ่ง ก็คือ เพราะตรัสรู้ธรรมที่แท้จริงตามที่เป็นจริง ครับ แล้วก็ทรงเห็นอารมณ์ที่แท้จริงครับ
ในประเด็นที่กล่าวถึง พระองค์ทรงตรัสรู้ครับ ธรรมที่จริงแท้ ครับ การที่จะค่อยๆ รู้ตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะค่อยๆ เห็นสิ่งที่ปรากฏนี่ครับ ตามการศึกษาก็รู้ว่า เป็นเพียงสีสันวรรณะต่างๆ จริงๆ แต่ว่าตามความจำตามความมั่นคงในการที่จะเห็นว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดครับท่านอาจารย์ การที่จะอาศัยพระธรรมที่จะกล่าวแล้วกล่าวอีกถึงความเป็นจริงว่าเป็นเพียงสีเท่านั้น แต่ดูเหมือนความเข้าใจในการที่จะน้อมไปสู่ความเป็นจริงของสิ่งที่มีครับท่านอาจารย์
คำ ที่กล่าวว่าเป็นเพียงรูปารมณ์ เพียงสีสันวรรณะต่างๆ จะอาศัยความละเอียดของ คำ แต่ละคำที่จะกล่าวความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏให้เห็นนี้อย่างไรครับ
ท่านอาจารย์: ไม่ลืมนะ ตามการศึกษารู้ว่า เป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็น ใช่ไหม?
อ.วิชัย: ใช่ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ตามการศึกษา เดี๋ยวนี้มีสิ่งที่กำลังปรากฏให้เห็น
เพราะฉะนั้น ศึกษาให้เข้าใจความจริงที่กำลังมี ความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้มีสิ่งที่ถูกเห็น แต่ว่าไม่สามารถที่จะรู้เลย ตามความเป็นจริงสิ่งที่ถูกเห็นไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น นอกจากเป็นสิ่งที่มีจริงที่สามารถกระทบกับจักขุปสาทะ รูปพิเศษ ที่กลางตา จึงทำให้เกิดธาตุรู้เกิดขึ้นเห็น เห็นไหม แต่ละหนึ่ง จักขุปสาทะเป็นรูป สิ่งที่กระทบตาถูกเห็นจึงปรากฏ แล้วก็ดับทั้งหมดไม่เหลือเลย
แล้วศึกษาอย่างนี้หรือเปล่า หรือไปจำชื่อจำเรื่อง?
อ.วิชัย: กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ คือเมื่อกี้ที่ท่านอาจารย์กล่าวก็ไตร่ตรองตามนะครับ แต่ก็ยากที่จะรู้ครับอย่างที่ท่านอาจารย์กล่าวถึงว่า มีสิ่งที่ปรากฏทางตากระทบกับจักขุปสาทรูป ซึ่งแม้ ๒ อย่างตามความเป็นจริงก็ไม่ได้รู้ครับ แต่ว่าได้ยินคำนี้ครับท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์: แล้วก็ มีจริงๆ หรือเปล่า ตา?
อ.วิชัย: มีจริงครับ
ท่านอาจารย์: ไม่ปรากฏ จริงไหม?
อ.วิชัย: จริงครับ ก็ไม่ปรากฏครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น จะให้เปลี่ยนสภาพธรรมได้ไหม?
อ.วิชัย: เปลี่ยนไม่ได้แน่นอนครับ
ท่านอาจารย์: ค่ะ เพราะฉะนั้น จึงรู้ความจริงว่า ทุกวันสภาพธรรมเกิดดับเร็วสุดที่จะประมาณได้ แต่ไม่ปรากฏว่าอะไรเกิดอะไรดับเลยสักอย่าง คิดดู ตลอดเวลาทุกขณะความจริงเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ได้ปรากฏอย่างนี้
เพราะฉะนั้น ความไม่รู้ตามความเป็นจริงมหาศาลแค่ไหน ปิดบังทุกอย่างหมดตั้งแต่เกิดจนตายทุกชาติ จนกว่าจะได้ฟังคำที่กล่าวถึงความลึกซึ้งอย่างยิ่งของ สิ่งที่แค่กระทบตาปรากฏแล้วดับ แต่ไม่ได้ปรากฏเป็นอย่างนั้น ปรากฏเป็นหลายๆ สี ทำให้มีรูปร่างสัณฐานต่างๆ แล้วไปจำไว้เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ได้จำไว้เลยว่า เป็นแต่เพียงสีต่างๆ ผิดมานานเท่าไหร่?
อ.วิชัย: นานมากครับ ที่จำแล้วก็หลงผิดในสิ่งที่ปรากฏโดยไม่รู้
ท่านอาจารย์: เริ่มฟังเข้าใจมั่นคงว่า เปลี่ยนไม่ได้ ความจริงไม่ได้ปรากฏ กว่าจะปรากฏกับปัญญาความเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าจะปรากฏชัด เห็นไหม? ทรงแสดงไว้ว่า หนทางมีจริง แล้วนี่เป็นหนทางเดียว ถ้าไม่รู้ตรงสิ่งที่กำลังปรากฏ จะไปรู้ชัดในลักษณะที่ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด และเกิดดับได้อย่างไร?
เพราะฉะนั้น คำสอนจึงลึกซึ้ง แลัวก็ยากแสนยากที่จะรู้ได้ แต่ว่าเมื่อมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ก็ค่อยๆ คลายความไม่รู้ ความจริงโลกไม่ได้เป็นอย่างนี้เลย ไม่ได้ปรากฏว่าอะไรเกิดดับ มีแต่อัตตาเยอะเยะไปหมดเต็ม
ขอเชิญอ่านได้ที่..
ตถาคตรู้โลกและอารมณ์ ๖ [โลกสูตร]
ขอเชิญฟังได้ที่..
การศึกษาธรรมไม่ใช่ไปศึกษาชื่อ
พระนามว่า ตถาคต เพราะเหตุใดบ้าง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ