
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ความเห็นผิดทำให้เข้าใจว่าธรรมะง่ายจึงประมาทและขาดสติ
ขณะที่รู้ว่าธรรมะยาก ขณะนั้นปัญญาละโลภะ เพราะปัญญารู้โลภะ
พระคุณของพระพุทธเจ้า คือ พระปัญญาคุณจึงสามารถดับกิเลสได้จึงมีพระบริสุทธิคุณ และเมื่อทรงแสดงธรรมให้ผู้อื่นได้ฟังได้เข้าใจจึงเป็นพระมหากรุณาคุณ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเห็นเกิดและดับ ไม่ใช่เรา ไม่ควรติดข้อง ถ้าไม่ได้ฟังจะไม่รู้ความจริงเลยว่าเห็นเกิดเพราะเหตุปัจจัยและดับไป
เพราะรู้ว่าธรรมะยากจึงคลายความหวัง (โลภะ) ขณะที่รู้ว่าธรรมะยาก ... ละโลภะ
เพราะไม่เห็นในความลึกซึ้งของพระธรรม จึงมีฉันทะพอใจที่จะเป็นพระโสดาบัน ขณะนั้นมีโลภะและโง่เกิดขึ้นแล้วเพราะคิดด้วยความเป็นเรา แต่ถ้าไม่สนใจว่าเมื่อไหร่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมโดยไร้เหตุ แต่สนใจที่จะเจริญเหตุให้ปัญญาเจริญขึ้นทีละเล็กทีละน้อย สะสมจนกว่าจะสมบูรณ์พร้อมด้วยเหตุปัจจัย จึงไม่หวังผลขณะนั้นก็คลายโลภะ ไม่ต้องคิดเลยว่ายากขนาดไหน นานแค่ไหน ขนาดพระพุทธเจ้ายังต้องทรงบำเพ็ญพระบารมีนานแค่ไหน?!
ผู้ที่เห็นในความลึกซึ้งของธรรมะจึงไม่หวังและไม่หวั่นไหว เพราะรู้ว่าพระธรรมเป็นเรื่องที่ยาวนานและยาก
แล้วจะเห็นในความลึกซึ้งของพระธรรมได้อย่างไร? อดทนฟัง ยิ่งยากยิ่งอดทน ยิ่งมีความเพียรในการฟังธรรมด้วยความตั้งใจมั่น เป็นโอกาสที่จะได้เพิ่มพูนความเข้าใจขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เห็นประโยชน์ของพระธรรมจึงไม่ละโอกาสที่จะได้ค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา และค่อยๆ ขัดเกลาอกุศลธรรม กิเลสทั้งหลายไม่ว่าหนทางจะยาวไกลแค่ไหน ไม่หวังแต่มั่นคงในการอบรมเจริญปัญญาในหนทางที่ถูกต้อง

จงฟัง จงใส่ใจให้ดีที่จะฟังในแต่ละคำซึ่งเป็นคำของพระพุทธเจ้า
ผู้ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ แค่ประจักษ์แจ้งธรรม เวลาจะไม่นานเท่าเป็นพระพุทธเจ้า ก็ต่อเมื่อเป็นผู้อบรมปัญญาอบรมบารมีจริงๆ เห็นประโยชน์และไม่ทอดทิ้งการฟังธรรมอบรมเจริญปัญญาจริงๆ
ความเข้าใจที่จะค่อยๆ ขัดเกลาละคลายความไม่รู้ ต้องมีเหตุปัจจัยที่ได้ฟังมาแล้วในอดีตแน่นอน จึงได้มาฟังอีก ค่อยๆ อบรมต่อไป สังสารวัฏแสนยาวนาน ธรรมะยากก็ไม่ท้อถอย ฟังและศึกษาต่อไป
พอจะประมาณว่าฟังธรรมมานานแค่ไหน?? จากขณะนี้ฟังแล้วเข้าใจแค่ไหนและมีความเข้าใจในขั้นฟังแค่ไหน!! รู้ตรงลักษณะของธรรมะที่กำลังปรากฏยังไม่เกิดเลย เพราะความเข้าใจขั้นฟังยังไม่มั่นคงและยังคงมีกิเลสมากมายเหลือคณานับ จึงมีพระธรรมเป็นที่พึ่งที่อาศัย
รู้ว่าธรรมะลึกซึ้งได้ตามลำดับของปัญญา เห็นว่าธรรมะลึกซึ้งอย่างจริงจังหรือยัง?! ... ยัง ... นี่คือสัจจบารมี เป็นผู้ตรงและจริงใจรู้ว่าธรรมะลึกซึ้งแค่ไหน
ยิ่งฟังยิ่งได้รับประโยชน์ ยิ่งฟังยิ่งเข้าใจ ผู้เงี่ยโสตลงสดับเป็นผู้ที่มีอุปนิสัย
อุปนิสัยในที่นี้คือที่อาศัยที่มีกำลัง ตั้งแต่อดีตที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตั้งใจฟังพระธรรมจากการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถ้าได้ยินธรรมแล้วไม่สนใจฟัง คือผู้ไม่มีอุปนิสัยในพระศาสนานี้
แต่ผู้ที่เงี่ยโสตลงสดับเป็นผู้ที่มีอุปนิสัย เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่จะกระทบเสียงของพระธรรมอย่างละเอียด ตั้งใจฟังเพื่อความเข้าใจเท่านั้น เพื่อเข้าใจความจริงจากคำจริงนั้นเพิ่มขึ้นๆ จากต้นทุนเก่าเป็นบารมีต่างๆ จนกว่าจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่าธรรมง่าย จะบรรลุกันได้เร็ว แต่ว่าเมื่อตรัสรู้แล้ว พระองค์ตรัสว่า ธรรมลึกซึ้ง ละเอียด ยากที่จะรู้ได้ ประมาทคำนี้หรือเปล่า
"ข้อสำคัญก็คือ พระปัจฉิมวาจา ที่ว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
รวมพุทธดำรัสทั้งหมดในความไม่ประมาท เพราะว่าไม่มีใครทราบจริงๆ ในเรื่องของภพภูมิต่อไป การที่มีโอกาสได้อยู่ในภพภูมินี้ และมีโอกาสได้ศึกษาธรรม ได้ฟังธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ถ้าจะยิ่งประพฤติปฏิบัติตามได้ด้วยความไม่ประมาท
เพราะฉะนั้นควรจะพิจารณาความหมายของคำว่า ไม่ประมาทในที่นี้ เพราะบางท่านที่ยังเป็นผู้ที่หมกมุ่นในชีวิต ในลาภ ก็จะเข้าใจว่าเป็นความไม่ประมาทในการแสวงหาลาภ การแสวงหาปัจจัย แต่ว่าความไม่ประมาทนั้นควรจะเป็นในการเจริญกุศล ไม่ใช่ในอกุศล.."
คลิ๊กฟังได้ที่
จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพในทุกคำที่ประคับประคองให้เห็นคุณค่าของความ อดทน มั่นคงในหนทางถูกคือการฟังพระธรรมทุกวัน ไม่รีบร้อนต้องการรู้เร็วๆ แล้วไปทำอย่างอื่นตามคำที่ไม่ตรง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถูกทางที่พระสัมมาสัมพุธเจ้าทรงแสดง ความเข้าใจที่เกิดขึ้นจากการฟังพระธรรม ทำกิจให้เจริญกุศลทุกประการด้วยความไม่ประมาท และไม่ขาดการฟังพระธรรม

*ยิ่งรู้ว่ายากก็ยิ่งมีความเพียร อดทนที่จะฟังที่จะศึกษาต่อไปไม่ย่อท้อ ด้วยความไม่ท้อถอยจึงจะเป็นเหตุให้ปัญญาค่อยๆ เกิดขึ้น ค่อยๆ เจริญขึ้น
*โลภะเป็นปฏิปักษ์กับบารมี บารมีเป็นปฏิปักษ์กับอกุศลทั้งหมด จะพ้นจากอกุศลทุกประการด้วยบารมี เจริญบารมีให้เต็มเปี่ยมด้วยความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม ผู้มีความเข้าใจพระธรรม จึงไม่ประมาทของกุศลแม้เล็กน้อย นั่นคือบารมี เพราะทุกบารมีไม่ขาดจากสติเลย
*ความไม่ประมาทเป็นเหตุให้เจริญกุศล และกุศลจึงเป็นปัจจัยให้เกิดสติปัฏฐาน เมื่อสติปัฎฐานเกิดขึ้น ยิ่งเกื้อกูลให้บารมีเพิ่มขึ้นๆ
*ความไม่ประมาทจึงเป็นยอดของกุศลธรรมทั้งหลาย
*ไม่ประมาทจึงไม่ขาดการฟัง เป็นกิจของสติ ถ้าสติไม่เกิด ปัญญาก็เกิดไม่ได้
*ไม่มีบารมี สติปัฎฐานจะเกิดได้ไหม? ไม่ได้เลย และเมื่อสติปัฎฐานที่เกิดก็จะปรุงแต่งสังขารขันธ์ให้บารมีเจริญขึ้น เพิ่มขึ้น
กราบขอบพระคุณในความเมตตากรุณา ของ อ.อรรณพ หอมจันทร์ และ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ที่ได้สละเวลาสนทนาธรรมยามค่ำคืน ให้พวกเราผู้ตั้งใจฟังได้รับประโยชน์เพิ่มความเข้าใจ ใส่ใจ ในความละเอียดของพระดำรัสของพระพุทธองค์ และคำของท่านอาจารย์เพิ่มยิ่งขึ้น
ฟังทบทวนได้ที่
สนทนาธรรม กับ อ.อรรณพ และ อ.คำปั่น วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568
เวลา 19.00 - 21.00 น.
ขอบพระคุณยินดีในกุศลคุณ nattawan ที่ได้บันทึกคำที่สนทนาให้ได้อ่าน และยินดีในความเข้าใจของผู้ฟังและร่วมการสนทนาทุกท่านด้วยค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ