วิปัสสนูปกิเลส
โดย prachern.s  13 ต.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 13942

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 374

บทว่า มคฺคามคฺคณาณทสฺสนวิสุทฺธิ ได้แก่ วิปัสสนูปกิเลส ๑๐ คือ :-

โอภาส - แสงสว่าง ๑

ญาณ - ความรู้ ๑

ปีติ - ความอิ่มใจ ๑

ปัสสัทธิ - ความสงบ ๑

สุข - ความสุข ๑

อธิโมกข์ - ความน้อมใจเชื่อ ๑

ปัคคหะ - ความเพียร ๑

อุปัฏฐาน - ความตั้งมั่น ๑

อุเบกขา - ความวางเฉย ๑

นิกันติ - ความใคร่ ๑

ภิกษุผู้เจริญวิปัสสนาไม่ฉลาด เมื่อโอภาสนั้นเกิดคิดว่า โอภาสเห็นปานนี้ ยังไม่เคยเกิดแก่เรามาก่อน จากนี้เลยหนอ เราเป็นผู้บรรลุมรรคบรรลุผลแน่แท้แล้ว จึงถือเอาสิ่งที่ไม่ใช่มรรคนั่นแหละว่า เป็นมรรค สิ่งที่ไม่ใช่ผลนั่นแหละว่าเป็นผล.

บทว่า ญาณํ อุปฺปชฺชติ ญาณย่อมเกิดขึ้น คือ เมื่อพระโยคาวจรนั้นพิจารณาอย่างรอบคอบถึงรูปธรรมและอรูปธรรม วิปัสสนาญาณอันเฉียบแหลมแข็งแกร่งกล้ายิ่งนัก มีกำลังไม่ถูกกำจัด ย่อมเกิดขึ้นดุจวชิระของพระอินทร์ที่ปล่อยออกไปฉะนั้น.

บทว่า ปีติ อุปฺปชฺชติ ปีติย่อมเกิดขึ้น คือ ในสมัยนั้น ปีติสัมปยุตด้วยวิปัสสนา ๕ อย่างนี้ คือ

ขุททกาปีติ (ปีติอย่างน้อย) ๑

ขณิกาปีติ (ปีติชั่วขณะ) ๑

โอกกันติกาปีติ (ปีติเป็นพักๆ ) ๑

อุพเพงคาปีติ (ปีติอย่างโลดโผน) ๑

ผรณาปีติ (ปีติซาบซ่าน) ๑

ย่อมเกิดขึ้นแก่พระโยคาวจรนั้น ยังสรีระทั้งสิ้นให้อิ่มเอม.

บทว่า ปสฺสทฺธิ อุปฺปชฺชติ ความสงบย่อมเกิดขึ้นคือ ในสมัยนั้น พระโยคาวจรนั้น ไม่มีความกระวนกระวายของกายและจิต ไม่มีความหนัก ไม่มีความหยาบ ไม่มีความไม่ควรแก่การงาน ไม่มีความไข้ ไม่มีความคด

แต่ที่แท้พระโยคาวจรนั้น มีกายและจิตสงบเบาอ่อน ควรแก่การงานคล่องแคล่วเฉียบแหลม ตรง. พระโยคาวจรนั้นมีกายและจิตอันเป็นปัสสัทธิเป็นต้นเหล่านี้ อนุเคราะห์แล้ว ย่อมเสวยความยินดีอันมิใช่ของมนุษย์ในสมัยนั้น ...



ความคิดเห็น 1    โดย vikrom  วันที่ 21 ต.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 2    โดย vikrom  วันที่ 21 ต.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 3    โดย doungkeaw  วันที่ 15 ก.ย. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนา

ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 21 พ.ย. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น