จะหมดความเห็นผิดได้ด้วยปัญญา
โดย nattawan  24 มี.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31659

เรารักตนเองแต่ก็ทำร้ายตนเองทุกวันๆ เมื่อไหร่จะหยุดทำร้ายตนเองได้

เพราะไม่รู้ความจริงว่าไม่มีเรา แต่มีธรรมะที่เป็นกุศลดีงามและธรรมะที่เป็นอกุศลไม่ดีงาม ตราบใดที่ยังไม่รู้ความจริงก็ยังทำร้ายตนเองต่อไปโดยไม่รู้ตัว

กำลังเห็น ติดข้องว่าเป็นเราก็ทำร้ายตัวเองแล้ว มีเราก็เดือดร้อนแน่ๆ กังวลเรื่องอะไร ก็กังวลเรื่องเรา

กังวลทำร้ายตนเองหรือเปล่า อยู่ดีๆ ก็กังวล ทำอะไรก็ไม่ได้ ธรรมะก็เป็นธรรมะมีปัจจัยเกิดขึ้นและดับไป กังวลก็ทำร้ายตนเองแล้ว

การเข้าใจความจริงจะทำให้หยุดทำร้ายตนเองได้อย่างไร รู้ว่าไม่มีเราแล้วจะทำร้ายใคร มีแต่กุศลซึ่งเป็นธรรมะมีปัจจัยเกิดแล้วดับ อกุศลก็เช่นเดียวกัน หมดแล้วไม่เหลือ ตัวตนอยู่ที่ไหน

ถ้าไม่มีเรา ทำร้ายใคร เมื่อไม่มีตัวตนแล้วทำร้ายใคร อกุศลเป็นอกุศล เกิดและดับไป อกุศลเกิดที่จิต จิตขณะนั้นถูกทำร้ายด้วยอกุศล เราอยู่ไหน จิตเกิดแล้วก็ดับ

ศึกษาธรรมะเพื่อเข้าใจความจริงของสภาพธรรมะซึ่งไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่สัตว์บุคคล ถ้าเข้าใจผิดว่ามีตัวตน เป็นอกุศล ตราบนั้นก็ไม่สามารถหยุดทำร้ายตัวเอง ฟังธรรมเพื่อเข้าใจความจริงและดับอกุศลทั้งหมด

ไม่มีอะไรทำลายอกุศลได้นอกจากความเห็นถูกต้องค่อยๆ ละคลายความเห็นผิดและอกุศลอื่นๆ ตามลำดับของปัญญา

รักษาจิตให้พ้นจากความไม่รู้ ให้พ้นจากความไม่รู้ด้วยปัญญาที่เข้าใจถูก

กิเลสที่สะสมหมักหมมในจิตเหมือนเชื้อโรค เน่า เหม็น ไม่สะอาดเลย จะรักษาได้อย่างไรถ้าไม่มีพระธรรมคือความเห็นถูกเข้าใจถูกที่จะค่อยๆ รักษาบาดแผล ทั้งแผลเก่าแผลใหม่ ทั้งเชื้อโรคมากมาย ด้วยการที่มีความเข้าใจถูกต้องขึ้นเพื่อละความเป็นเรา

แต่ละคำเป็นวิริยารัมภกถา เป็นคำพูดให้มีความเพียร อดทน แต่ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ให้เราเพียรแต่เมื่อฟังแล้วก็เป็นปัจจัยให้มีความเห็นถูกต้องว่าเพียงเข้าใจเท่านี้ไม่สามารถละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นเราที่สะสมมานานแสนนานได้ ต้องละความยึดถือ ไม่มีความเห็นผิดและละความเห็นผิดนั้น นี่คือการรักษาด้วยพระธรรม ไม่มียาอื่นเลย

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุปมาว่าพระองค์คือหมอผู้รักษาคนไข้ซึ่งโรคร้ายแรงมาก ถ้าไม่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมก็จะเป็นเช่นนี้ไปตลอด ต่อไปอีกข้างหน้าประมาณไม่ได้เลยว่าอีกนานเท่าไหร่ เพราะอยู่มานานเท่าไหร่จนขณะนี้เต็มไปด้วยความไม่รู้และการยึดถือสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏ

จะหมดความเห็นผิดได้ด้วยปัญญาที่ค่อยๆ รู้จึงละการยึดถือสภาพธรรมะว่าเป็นตัวตน ค่อยๆ คลาย ยังไม่สามารถดับหมดเป็นสมุจเฉท เพราะกำลังของอกุศลมากมาย อหิริกะอโนตตัปปะก็มีกำลังมากทุกครั้งที่อกุศลเกิด กว่าหิริโอตตัปปะและโสภณเจตสิกจะเกิดจากการฟังธรรมและค่อยๆ เข้าใจขึ้น สามารถรู้ความจริงทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าจะประจักษ์ชัดตรงตามที่ได้ฟัง

กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย lokiya  วันที่ 25 มี.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 2    โดย เมตตา  วันที่ 27 มี.ค. 2563

ผู้มีปัญญาพึงรักษาจิต...

.. ขออนุโมทนาในกุศลจิตค่ะ..


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ