มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ... ธรรมเจติยสูตร
ข้อความต่อไป พระเจ้าปเสนทิโกศลกราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อีกประการหนึ่ง หม่อมฉันเดินเที่ยวไปตามอารามทุกอาราม ตามอุทยานทุกอุทยานอยู่เนืองๆ ในที่นั้นๆ หม่อมฉันได้เห็นสมณพราหมณ์พวกหนึ่ง ซูบผอม เศร้าหมอง มีผิวพรรณไม่ผ่องใส ผอมเหลือง ตามตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ดูเหมือนว่าจะไม่ตั้งใจแลดูคน หม่อมฉันนั้นได้เกิดความคิดว่า ท่านเหล่านี้คงไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์เป็นแน่ หรือว่าท่านเหล่านั้นมีบาปกรรมอะไรที่ทำแล้วปกปิดไว้ ท่านเหล่านั้นจึงซูบผอม เศร้าหมอง มีผิวพรรณไม่ผ่องใส ผอมเหลือง ตามตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ดูเหมือนว่าไม่ตั้งใจแลดูคน หม่อมฉันเข้าไปหาสมณพราหมณ์เหล่านั้น แล้วถามว่า
ดูกร ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เหตุไรหนอท่านทั้งหลายจึงซูบผอม เศร้าหมอง มีผิวพรรณไม่ผ่องใส ผอมเหลือง ตามตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น ดูเหมือนว่าไม่ตั้งใจแลดูคน
สมณพราหมณ์เหล่านั้นได้ตอบอย่างนี้ว่า
ดูกร มหาบพิตร อาตมาภาพทั้งหลายเป็นโรคพันธุกรรม
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แต่หม่อมฉันได้เห็นภิกษุทั้งหลายในธรรมวินัยนี้ ร่าเริงยิ่งนัก มีใจชื่นบาน มีรูปอันน่ายินดี มีอินทรีย์เอิบอิ่ม มีความขวนขวายน้อย มีขนอันตก เลี้ยงชีพด้วยของที่ผู้อื่นให้ มีใจดังมฤคอยู่
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้มีความคิดว่า ท่านเหล่านี้คงจะรู้คุณ วิเศษยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมในพระศาสนาของพระผู้มีพระภาคเป็นแน่ ท่านเหล่านั้นจึงร่าเริงยิ่งนัก มีใจชื่นบาน มีรูปอันน่ายินดี มีอินทรีย์เอิบอิ่ม มีความขวนขวายน้อย มีขนอันตก เลี้ยงชีพด้วยของที่ผู้อื่นให้ มีใจดังมฤคอยู่
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้อนี้ก็เป็นความเลื่อมใสในธรรม ในพระผู้มีพระภาคของหม่อมฉัน
นี่เป็นข้อความที่พระเจ้าปเสนทิโกศลกราบทูลพระผู้มีพระภาค เพราะเหตุว่าข้อประพฤติปฏิบัติที่จะให้รู้แจ้งอริยสัจธรรมเป็นที่แสวงหากันมาตั้งแต่อดีต แต่ถ้าไม่ศึกษาธรรมอันละเอียดลึกซึ้งและสุขุมแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถประพฤติถูกต้องที่จะให้ปัญญารู้ชัดในสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ที่พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จพระราชดำเนินไปตามอุทยานต่างๆ อารามต่างๆ นั้น ก็ได้เห็นบุคคลที่มีข้อประพฤติปฏิบัติต่างๆ กัน เช่น บุคคลที่ซูบผอมตามเนื้อตามตัวมีเส้นเอ็นสะพรั่ง แล้วก็หน้าตาซูบซีด ผิวพรรณไม่ผ่องใส ดูเหมือนว่าจะไม่ตั้งใจแลดูคน
นี่เป็นข้อประพฤติปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลเห็น ก็แปลกใจว่า ท่านเหล่านี้คงเศร้าโศก มีความในใจ ไม่ยินดีประพฤติปฏิบัติพรหมจรรย์เป็นแน่ หน้าตาจึงได้เป็นทุกข์เศร้าโศกซูบผอมอย่างนี้ และเมื่อได้ถามว่า เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้นก็ตอบว่า ท่านเป็นโรคพันธุกรรม
ปปัญจสูทนี อรรถกถามัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ ... อรรถกถาธรรมเจติยสูตร มีข้อความอธิบายเรื่องโรคพันธุกรรมว่า
พันฺธุกโรโค คือ กุลโรโค
อาจารย์บางท่านกล่าวว่า ผู้ที่เกิดแล้วในตระกูลของพวกเราเป็นอย่างนี้
หมายความว่า ถ้าปฏิบัติในสายเดียวกัน ก็จะมีลักษณะของโรคนี้เหมือนกัน ซึ่งเป็นโรคประจำลัทธิ ถ้าไปสู่ที่หนึ่งที่ใด หรืออารามหนึ่งอารามใด หรือสถานที่หนึ่งที่ใด แล้วก็ปฏิบัติเหมือนกันไปหมด ผิดปกติหรือว่าเป็นปกติจริงๆ ของท่านทุกวันๆ ซึ่งแต่ละคนจะเหมือนกันอย่างนั้นได้ไหม จะชอบสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ไม่เหมือนกัน จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน จะพูด จะคิด ก็ไม่มีเหมือนกันเลย เพราะเหตุว่าสะสมเหตุปัจจัยมาต่างๆ กันไป เพราะฉะนั้น การเจริญปัญญาไม่ใช่ไปแสร้งทำให้เกิดโรคพันธุกรรมขึ้น คือ ไปเหมือนๆ กันหมด ทรมานจนกระทั่งซูบผอม ผอมเหลือง ตามเนื้อตามตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น และดูเหมือนว่าไม่ตั้งใจจะแลดูคน
ท่านผู้ฟังต้องการติดโรคพันธุกรรม หรือต้องการมีโรคพันธุกรรมบ้างไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดมีความเห็นผิดในข้อปฏิบัติที่จะไปทำให้โรคพันธุกรรมเกิดขึ้น ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 143
เปิดฟัง ...
โรคพันธุกรรม
ธรรมเจติยสูตร