
ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง เกิดเองไม่ได้ใครทำให้เกิดไม่ได้ ต้องมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้น เป็นสังขารธรรมปรุงแต่งให้เป็นอย่างนั้นได้ เกิดเป็นอะไรเป็นตามปัจจัยทั้งนั้น
ธรรมะเป็นธรรมะ ไม่อยู่ในอำนาจของใครทั้งสิ้น
กว่าจะรู้ว่าเป็นธรรมะจริงๆ เป็นอะไรไม่ได้นอกจากธรรมะ เป็นของเราไม่ได้ เป็นเราไม่ได้ กว่าจะลบล้างสิ่งต่างๆ ออกไปจากแต่ละหนึ่งที่ปรากฏจะไม่ใช่เราเด็ดขาดเมื่อสิ่งนั้นปรากฏตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นสำหรับพิจารณาให้เข้าใจ ไม่ใช่เพียงฟัง จำและพูดตาม หลงยึดถือว่าเป็นเราแล้วก็ตาย เป็นๆ แล้วหายไปเลย มันไม่ใช่ของเราตั้งแต่ต้นตั้งแต่เกิด ไปหลงว่าเป็นเราตั้งแต่เกิดและรู้ว่าไม่มีเราตอนตาย หายไปได้ยังไงเป็นเรามาตลอด เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเรา ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมะทั้งหมด
เห็นไหมว่าธรรมะแต่ละหนึ่งเกิดดับสลับรวดเร็วแค่ไหน?! ... ยากมาก ... นี่แหละเริ่มรู้จักพระพุทธเจ้า ทุกคำมาจากการตรัสรู้ประจักษ์แจ้งจนไม่เหลือกิเลสใดๆ เลยที่จะทำให้เกิดอีกต่อไป
ฟังเท่าไหร่ก็ไม่พอ มีคนที่ไปปฏิบัติ ... ฟังพอแล้วหรือ?! ถ้าปฏิบัติต้องไปหรือ คิดว่าอยู่บ้านปฏิบัติไม่ได้เพราะไม่รู้จักธรรมะ ไม่ได้เข้าใจธรรมะแล้วจะปฏิบัติ ตั้งแต่เกิดจนตายพูดแต่คำที่ไม่รู้จัก แค่คำเดียวว่าธรรมะเราต้องฟังนานเท่าไหร่?? จนกว่าจะรู้จักธรรมะ ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลยมีทุกวัน แต่ไม่รู้จักเลยสักวัน
เดี๋ยวนี้สิ่งที่กำลังปรากฏไม่ได้ปรากฏด้วยดี ต้องตรงต่อความเป็นจริง ... สัจจธรรมและปัญญาความเห็นถูกเท่านั้นที่จะทำให้ตรงได้ ถ้าไม่ตรง ... เห็นผิดทันที
ถ้าพูดคำที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัว เราพูดเองไหม?? แล้วเราเป็นใคร จะเป็นใครก็ไม่ใช่พระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงไม่มอบหมายใครให้เป็นศาสดาแทนพระองค์ พระธรรมเป็นศาสดาเป็นพระกาย จะเห็นพระพุทธเจ้าก็เมื่อเข้าใจธรรมะ ผู้ใดเห็นธรรมมะผู้นั้นเห็นเรา ถ้าไม่เห็นไม่เข้าใจธรรมะ จะไม่เห็นพระพุทธเจ้าเลย
ถ้าเราไม่เริ่มเข้าใจจริงอย่างละเอียดทีละเล็กทีละน้อย เราจะเข้าใจทั้งหมดที่เราได้ฟังได้ไหม ... ไม่มีทางเลย ... เราหลงว่าเราฟังธรรมะ เราหลงว่าเราเข้าใจธรรมะ แต่การสนทนาธรรมทำให้รู้ว่าเข้าใจหรือเปล่า ถ้าไม่สนทนาก็คิดว่าเข้าใจแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปไกลเลยแค่ประโยคนั้นคืออะไร คำนั้นคืออะไร และถ้าเราเข้าใจแล้วเราจะรู้เลยว่าคนอื่นเข้าใจหรือเปล่า เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าตรัส "จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวสัพเพ ธัมมา อนัตตา" ทุกอย่างรวมหมดในคำนี้ คำของพระพุทธเจ้าเปลี่ยนไม่ได้!!!
จากพาลปุถุชนฟังและเข้าใจมากขึ้นๆ เป็นกัลยาณปุถุชนจึงสามารถอบรมเจริญปัญญาจนกว่าจะรู้แจ้งสภาพธรรมะได้
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ