การตาย 3 อย่าง
โดย webdh  1 เม.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 3265

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 155

พึงทราบประเภทแม้นี้อีกว่า ขณิกมรณะ สมมติมรณะ สมุจเฉทมรณะ

เมื่อชีวิตยังเป็นไป ความแตกแห่งรูปธรรมและนามธรรม ชื่อว่า ขณิกมรณะ​ คำนี้ว่า ติสสะตาย ปุสสะตาย ดังนี้ ชื่อว่า สมมติมรณะ โดยปรมัตถ์ เพราะไม่มีสัตว์ แม้คำนี้ว่า ข้าวกล้าตาย ต้นไม้ตาย ดังนี้ก็ชื่อว่าสมมติมรณะ เพราะไม่มีชีวิตินทรีย์​กาลกิริยาอันไม่มีปฏิสนธิของพระขีณาสพ ชื่อว่า สมุจเฉทมรณะ



ความคิดเห็น 1    โดย wannee.s  วันที่ 1 เม.ย. 2550

ขณิกมรณะ การตายชั่วขณะ คือสภาพธรรมเกิดแล้วดับ

สมมติมรณะ ตายโดยสมมติ เช่น จุติจิตเกิดขึ้นแล้วดับไป ปฏิสนธิจิตเกิดต่อโดยไม่มีระหว่างคั่น คือ ตายแล้วเกิด

สมุจเฉทมรณะ ตายโดยเด็ดขาดคือตายโดยไม่มีการเกิดอีกได้แก่การตายของพระอรหันต์


ความคิดเห็น 2    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 1 เม.ย. 2550

อนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย ปุถุชนคนหนึ่ง  วันที่ 1 เม.ย. 2550
ชีวิตเหมือนความฝัน ถ้าสติปัฏฐานไม่เกิด ก็ฝันกันไปเรื่อยๆ

ความคิดเห็น 5    โดย แวะเข้ามา  วันที่ 2 เม.ย. 2550

รูปที่ ๒ ในความคิดเห็นที่ ๓ เป็นจักขุวิญญาณอกุศลวิบากใช่มั้ยจ้ะ และถ้ามีกลิ่นด้วย ก็เป็นฆานะวิญญาณอกุศลวิบาก


ความคิดเห็น 8    โดย oom  วันที่ 10 เม.ย. 2550

ภาพสวยงามมากเลย จิตเป็นโลภะหรือเปล่า เพราะชอบมาก


ความคิดเห็น 9    โดย wannee.s  วันที่ 10 เม.ย. 2550

เป็นปกติในวัหนึ่งๆ เรามีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นพื้น ถึงแม้ว่าอกุศลจะเกิดบ่อย แต่เวลาที่กุศลจิตเกิดก็มีกำลังมากกว่าอกุศล เช่น ขณะที่เห็นภาพสวยงามเป็นโลภะ แต่หลังจากนั้นสติเกิดระลึกถึงลักษณะของโลภะความติดข้องว่าเป็นนามธรรม เป็นธรรมะอย่างหนึ่งที่ปรากฏเท่านั้น


ความคิดเห็น 10    โดย ก.ไก่  วันที่ 27 ก.พ. 2564

สาธุ