เข้าใจว่าการฆ่าบิดามารดาเป็นอนันตริยกรรม หากลูกเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องพรากชีวิตผู้ให้กำเนิดตนเพราะกำลังทำผิดกฎหมายหรือกฎศีลธรรมโดยกำลังจะฆ่าชีวิตผู้อื่น หรือกำลังทำลายพระพุทธศาสนา เช่น จะทำร้ายพระอรหันต์ เป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ครับ คงไม่มีโอกาสเกิดขึ้นจริง อาจมีได้เพียงในหนัง แต่เพื่อเสริมความเข้าใจว่าผลของกรรมแท้จริงแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ถูกกระทำหรือเจตนาภายใน หรืออย่างกรณีฆ่าเพราะไม่ทราบว่าเป็นบิดามารดาตนอย่างกรณีองคุลีมาล หากสมมติพระพุทธองค์ไม่ได้ทรงห้าม แล้วได้ฆ่ามารดาตน หรือ ทำไปเพราะไม่มีสติเพียงพอที่จะรู้ว่าเป็นแม่ตน เช่นกำลังเมาสุรา หรือเป็นผู้ทำให้เกิดอุบัติจนทำให้ผู้ให้กำเนิดเสียชีวิต เช่นเด็กคลอดผิดปกติ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สภาพธรรมเป็นสัจจะ ความจริง ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นกุศล ก็ไม่เปลี่ยนลักษณะไปเป็นอกุศล อกุศลก็ไม่เปลี่ยนลักษณะ อกุศลก็ต้องเป็นอกุศล ไม่เปลี่ยนลักษณะไปเป็นกุศลเลย ครับ

แม้แต่ตัวอย่างที่ผู้ถามยกมา ที่ผู้เป็นบุตร มีหน้าที่ลงโทษ มีการฆ่าผู้อื่น และผู้นั้นเป็นบิดา มารดาที่ทำผิดกฎหมาย เมื่อบุตร มีเจตนาฆ่า และ ผู้ที่ฆ่าเป็นบุตร และบิดา มารดาสิ้นชีวิต ก็ชื่อว่าเป็นอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่สำคัญ การพิจาณาต้องพิจารณาที่จิตในขณะนั้น หากจิตขณะนั้น มีเจตนาฆ่า และกรรมสำเร็จก็เป็นอนันตริยกรรม เพราะบาปไม่บาป สำคัญที่เจตนา คือ มีเจตนาฆ่าหรือไม่ ไม่ได้ สำคัญที่เหตุผลที่จะฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ครับ

ส่วนกรณีท่านพระองคุลิมาล หากพระพุทธเจ้าไม่ไปห้าม ท่านพระองคุลิมาลก็ต้องฆ่ามารดาของท่าน จะรู้หรือไม่รู้ว่าเป็นมารดา ก็ตาม แต่ผู้ที่ตายเป็นมารดา ก็เป็นอันว่าจะต้องเป็นอนันตริยกรรม เพราะมีเจตนาฆ่า และผู้ตาย เป็นมารดา ครับ และกรณีแม้ผู้เมาสุรา ก็เช่นเดียวกัน หากมีเจตนาฆ่าขณะนั้น แม้จะรู้หรือไม่รู้ว่า ผู้ที่ถูกฆ่า เป็นมารดา บิดาแต่ผู้ตาย เป็นมารดา บิดา ก็ต้องเป็นอนันตริยกรรม เพราะว่ามีเจตนาฆ่าเกิดขึ้นแล้ว และผู้ตายก็เป็นบิดา มารดา ครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฆ่าสัตว์ เป็นอกุศลกรรมบถ จะเป็นปาณาติบาตที่เป็นอกุศลกรรมบถที่ครบองค์หรือไม่ (เพื่อที่จะได้เทียบเคียงกับการฆ่าบิดามารดา) จะต้องพิจารณาจากองค์ของปาณาติบาต คือ สัตว์มีชีวิต รู้ว่าสัตว์มีชีวิต มีจิตคิดจะฆ่า มีควาพยายามในการฆ่า และ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะฆ่าบิดามารดา ด้วยความประสงค์ใด ก็ไม่พ้นไปจากเป็นปาณาติบาต และ เป็นอกุศลกรรมที่หนัก คือ เป็นอนันตริยกรรม เพราะมีเจตนาที่จะฆ่า วัดกันที่เจตนา ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

ศาสนาพุทธ เน้นเรื่องของกรรมและปัญญา พุทธศาสนาไม่ต้องมีใครปกป้อง และ จะค่อยๆ เสื่อมไป เพราะพุทธบริษัท ๔ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ไม่สนใจศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ไม่น้อมมาประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ศาสนาก็จะค่อยๆ เสื่อมไป และ การที่ใครก็ตามที่ฆ่าสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก เช่น มด ยุง ศีลข้อที่ ๑ ก็ขาด จะฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงครอบครัว ก็บาป ไม่เว้นว่าเป็นใครทำ ค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

สาธุๆ ๆ ๆ ๆ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"เป็นอนันตริยกรรม เพราะมีเจตนาที่จะฆ่า วัดกันที่เจตนา ครับ."

"อกุศลมักจะมีข้ออ้างเสมอ"

"เหตุดีผลก็ต้องดี"

ขอบคุณ และขออนุโมทนา อ.ผเดิม, อ.คำปั่น, พี่วรรณีและทุกท่านด้วยครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณสำหรับความกรุณาในคำตอบและอนุโมทนากับทุกๆ ท่านครับ ทำให้เข้าใจว่า การฆ่าบิดามารดาโดยเจตนาล้วนเป็นอกุศลและทำให้เป็นอนันตริยกรรมทั้งสิ้น แม้นบิดา มารดาตนกำลังจะทำชั่ว เช่น ในหนังจีน พ่อเป็นหัวหน้าฝ่ายอธรรมเที่ยวฆ่าคนดีคนบริสุทธิ์มานับร้อยนับพันก็ตาม ลูกเป็นฝ่ายธรรมะคงทำได้เพียงแค่มากที่สุดคือขอให้หยุดโดยเอาชีวิตตัวเองเข้าไปแลก หรือไม่ก็ทำใจให้เป็นอุเบกขาไป แล้วเกิดสงสัยต่อกรณี พระโมคคัลลานะ ท่านแปลงร่างเพื่อปราบพญานาค หรือ เหมือนเคยอ่านเจอว่าพระพุทธเจ้าก็ทรงเคยใช้อิทธิฤทธิ์ปราบพญานาคหรือมาร เช่นกัน ณ ขณะนั้นจะไม่มีสภาพธรรมอันเป็นอกุศลเกิดขึ้นได้เลยแม้นแต่เสี้ยววินาทีเดียวในการเอาชนะพญานาคเลยใช่ไหมครับ คงเพราะเป็นไปโดยเจตนาอันบริสุทธิ์เพื่อหยุดสิ่งที่เป็นโทษต่อส่วนรวม ไม่มี โลภ โกรธ หลง อย่างนี้เท่ากับว่าคนที่ ละ โลภ โกรธ หลง ได้แล้วเท่านั้นจึงจะสามารถใช้อำนาจกับสิ่งใดก็ได้เพราะไม่มีโอกาสเป็นไปด้วยอกุศลใช่ไหมครับ

เรียนความเห็นที่ 9 ครับ

พระพุทธเจ้า และ พระอรหันต์สาวกทั้งหลาย มี พระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น ดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว การกระทำของท่าน จึงไม่เป็นอกุศลจิตเลย คือ ไม่มีการเกิดขึ้นของความไม่ดี แม้เพียงเล็กน้อย ครับ แต่การกระทำของพระพุทธเจ้าและพระสาวกย่อมเป็นประโยชน์เกื้อกูลกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ได้มีจิตมุ่งร้าย ทำลายเลยแม้แต่น้อย แม้แต่การปราบนาคราช ก็เพื่อประโยชน์ของนาคราชเอง ที่เมื่อถูกปราบแล้ว ก็จะมีจิตเลื่อมใสขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และทำให้ผู้รู้เหตุการณ์นี้เกิดความเลื่อมใสในพระศาสนา ดังนั้น อำนาจ ฤทธิ์ที่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายใช้ ก็เพื่อประโยชน์กับผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อ ลาภ สักการะ ดังเช่น ปุถุชน ทำกันครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

ขอขอบคุณในคำตอบและอนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

เพราะเคยสับสนในเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ