ทำไมในการสวดมนต์หลายๆ บทต้องมี ทุติยัมปิ ตติยัมปิ (แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3) ครับ
โดย stfurol  3 พ.ค. 2568
หัวข้อหมายเลข 49861

ตั้งแต่เด็กเคยต้องสวดมนต์หลังเคารพธงชาติ และท่องสอบในวิชาพระพุทธศาสนา จึงพอจำบทสวดมนต์บางบทที่ต้องท่องบ่อยๆ ได้

(ซึ่งก็เพิ่งจะมาเริ่มอ่านคำแปลบทสวดมนต์ หลังจากที่เริ่มมาศึกษา ด้วยความสงสัยว่าที่ผ่านมาผมท่องอะไรครับ)

จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมในการสวดมนต์หลายๆ บทจึงต้องมี ทุติยัมปิ ตติยัมปิ (แม้ครั้งที่ 2 แม้ครั้งที่ 3) ครับ

ขอบพระคุณครับ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 3 พ.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรม เพื่อให้พุทธบริษัทได้เข้าใจ สิ่งที่ มีจริง ตามความเป็นจริง ที่จะสอนให้ไม่รู้นั้น ไม่ใช่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ไม่ว่าจะเป็นพระสูตรใด ส่วนใด ไม่ใช่สำหรับสวดหรือสำหรับท่อง แต่สำหรับศึกษา ด้วยความละเอียดรอบคอบจริงๆ เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามที่พระองค์ทรงแสดง

สวดแล้วหวัง ท่องแล้วหวัง เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี นั่นไม่ตรงแล้ว เพราะหวัง เป็นโลภะ เป็นเหตุที่ไม่ดี ในเมื่อเป็นเหตุที่ไม่ดี ก็ไม่สามารถนำผลที่ดีมาให้ได้เลย นี่ คือ ความเป็นผู้ตรง ซึ่งจะต้องมีความเข้าใจด้วยว่า ระหว่างการสวด โดยที่ไม่เข้าใจ กับการฟังพระธรรมแล้วก็เข้าใจ อย่างไหนจะเป็นประโยชน์กว่ากัน

ถ้ากล่าวถึงสวด เมื่อเทียบเทียงกับภาษาบาลีแล้ว แปลได้ว่า การสาธยาย คือการ ทบทวนสิ่งที่ได้ฟัง ให้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้นในครั้งพุทธกาล ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็สาธยาย แต่ เพราะได้ฟังพระธรรมแล้ว ในครั้งนั้น กว่าจะได้ฟังพระธรรมนั้นยากลำบาก เดินทาง ไปเข้าเฝ้าฟังพระธรรม จากพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไกลแสนไกล เพื่อที่จะได้ฟัง เมื่อฟังเสร็จแล้วก็เดินทางกลับ ระหว่างนั้นก็มีการระลึกถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง เพื่อ จะได้ไม่ลืม เวลาที่มีการระลึกถึงคำที่ได้ฟัง บ่อยๆ เนืองๆ แล้วไตร่ตรอง ด้วยความ เข้าใจนี้ คือ การสาธยาย ซึ่งไม่ใช่การพูดคำ ที่ไม่รู้จัก และ การสวดแบบอ้อนวอน ไม่มีในคำสอนทางพระพุทธศาสนาเลย เพราะพระองค์ ทรงแสดงพระธรรม ให้เข้าใจถูกเห็นถูก ตามความเป็นจริง เข้าใจในเหตุ ในผล ของ ธรรม
สำหรับข้อความที่กล่าวถึง ทุติยัมปิ (แม้ครั้งที่ ๒) ตติยัมปิ (แม้ครั้งที่ ๓) นั้น ก็แสดงถึงความเป็นผู้หนักแน่นมั่นคงไม่หวันไหว ไม่เปลี่ยนแปลง ในความตั้งใจมั่นใจ นั้น อย่างเช่น ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง แม้ครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้า ก็ขอถึงพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง แม้ครั้งที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอพึงพระพุทธเจ้า เป็นที่พึ่ง เป็นต้น ครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ stfurol และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...


ความคิดเห็น 2    โดย stfurol  วันที่ 3 พ.ค. 2568

กราบขอบพระคุณครับอาจารย์


ความคิดเห็น 3    โดย chatchai.k  วันที่ 3 พ.ค. 2568

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ