การโต้วาทีกับคนนอกศาสนา
โดย lokiya  13 ม.ค. 2563
หัวข้อหมายเลข 31451

สัจจกะนิครนถ์ที่โต้วาทีกับพระพุทธเจ้า ถ้าผมจะศึกษารูปแบบการโต้วาทีแบบนี้เพื่อในอนาคตข้างหน้ามีส่วนช่วยให้คนที่มีความเห็นผิดไปสู่หนทางที่ถูก อยากทราบว่าควรศึกษาได้จากที่ไหนบ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 14 ม.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เริ่มจากความเข้าใจของตนเองให้มั่นคงในหนทางที่ถูกต้องโดยเริ่มจาก ธรรม คืออะไร และธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา จนจรดกระดูก อันเกิดจากฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยมีผุ้รู้ที่ถ่ายทอดให้เข้าใจ เมื่อปัญญาตนเองเพิ่มมากขึ้น การถ่ายทอดก็จะถูกต้องตรงตามความเป็นจริง หากแต่ถ้าศึกษาไม่ละเอียด สำคัญว่าเข้าใจแล้ว แต่ขัดกับความเป็นอนัตตา การถ่ายทอด สนทนานั้นก็จะเป็นโทษกับผู้ที่รับฟังเพราะทำให้เข้าใจผิด เพราะฉะนั้นสำคัญที่ตนเองมีความเข้าใจที่ถูกต้องมั่นคงก่อนเป็นสำคัญ และ พระธรรมจะน้อมนำปรุงแต่งให้กาย วาจา น้อมไปในการแสดงหนทางที่ถูกต้องเอง ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 15 ม.ค. 2563

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคําจริง เป็นคําอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ต้องบําเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบําเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัทบ่อยๆ เนืองๆ ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาพระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรมมีประโยชน์มาก ทําให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสจนกว่า กิเลสจะดับหมดสิ้นไป

พระธรรมจึงเป็นประโยชน์สําหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรมได้ยินได้ฟังมาแล้วในอดีต ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม พระธรรมย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าสําหรับเขา ซึ่งจะตรงกับคําที่ว่า “พระธรรม ไม่สาธารณะกับทุกคน” อย่างแท้จริง ประการที่สําคัญที่ควรจะตระหนักอยู่เสมอ คือเราไม่สามารถทําให้คนทุกคนหันมาเป็นผู้สนใจ ศึกษาพระธรรมเหมือนกันหมด หรือ ไม่สามารถทําให้ทุกคนดําเนินชีวิตเป็นไปอย่างที่เราคิดได้ เพราะเป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ แต่ก็ต้องพิจารณาว่า เราไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าแต่ละคนสะสมมาอย่างไร ถ้ามีโอกาสได้พบกัน การให้สิ่งที่ประเสริฐที่สุด ก็คือ ความเข้าใจความจริง จะด้วยการถามให้ได้คิดพิจารณาถึงความเป็นจริง หรือ แนะนำให้ฟังให้ศึกษาตามช่องทางต่างๆ ก็ได้ เพราะถ้าเราไม่กล่าวเลย เขาจะมีโอกาสได้ฟัง ได้คิดพิจารณาไตร่ตรองได้อย่างไร ครับ

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย วิริยะ  วันที่ 16 ม.ค. 2563

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 22 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ